บาเยิร์นโคตรโหด! ถล่มบาร์ซ่าหมดสภาพ-คูตี้เบิ้ลทีมแม่ ลิ่วตัดเชือกชปล.
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 18 พฤษภาคม 2024 เวลา 18:58:41 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เตือนเพื่อนสมาชิก ระวัง นาย ธนันท์ วงค์วัฒนามงคล หลอกลวงสมาชิกที่ลงหาของในเวปโดยอ้างว่ามีสินค้าขายในราคาถูกและให้โอนเงินแต่ไม่ส่งสินค้าให้ โดยขณะนี้มีผู้ถูกหลอกหลายราย เบอร์โทรที่ใช้ 088-9526897 บัญชี ธ.ทหารไทย 2152261794/ ธ.กสิกรไทย 8530024230
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บาเยิร์นโคตรโหด! ถล่มบาร์ซ่าหมดสภาพ-คูตี้เบิ้ลทีมแม่ ลิ่วตัดเชือกชปล.  (อ่าน 380 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Sammphp
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 44


« เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2020 เวลา 12:23:34 »


"เสือใต้" งัดฟอร์มสุดเทพหลังบรรเลงเกมรุกสุดดุดันไล่ถล่ม บาร์เซโลน่า ชนิดยับเยินหมดสภาพ 8-2 โธมัส มุลเลอร์ กด2ตุง เช่นเดียวกับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ แข้งตัวยืมจากบาร์ซ่า แม้จะลงมาสำรองแต่ซัด2จ่าย1ใส่ต้นสังกัดทีมแม่ ก่อนพา บาเยิร์น มิวนิค ผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
สนาม : เอสตาดิโอ ดา ลุช (สนามกลาง)

    ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา เป็นการพบกันของสองยักษ์ใหญ่แห่งยุโรประหว่าง บาเยิร์น มิวนิค ที่ผ่าน เชลซี มาในรอบ 16 ทีมสุดท้าย พบกับ บาร์เซโลน่า ที่ผ่าน นาโปลี เข้ามา ซึ่งผู้ชนะในแมตช์นี้จะเข้าไปเล่นในรอบตัดเชือกรอพบผู้ชนะระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือโอลิมปิก ลียง   


    เปิดฉากมาได้แค่ 4 นาที แชมป์จากเยอรมัน บาเยิร์น มิวนิค ทะยานขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว บอลขึ้นทางซ้ายมาให้ อิวาน เปริชิช ครอสเข้ากลางมาแถวสองให้ มุลเลอร์ ทำชิ่งหนึ่งสองให้ เลวานดอฟสกี้ แปะคืนให้ โธมัส มุลเลอร์ ตามมายิงด้วยซ้ายพุ่งเสียบเสาสองอย่างสวยงาม

    ทว่า อีก 3 นาที บาร์เซโลน่า มาไล่ตีเสมอ 1-1 อย่างทันควัน หลัง เคราร์ด ปีเก้ วางบอลยาวตัดแนวรับให้ จอร์ดี้ อัลบา หลุดเข้าไปปาดเลียดไปหน้าประตู บอลจะถึงหลุยส์ ซัวเรซอยู่แล้วแต่ ดาวิด อลาบา พุ่งมาสกัดผิดเหลี่ยมแม้ นอยเออร์ จะพยายามปัดแต่โดนปลายนิ้วก่อนบอลจะเช็ดใต้คานเข้าไป

    เกมเปิดแลกกันอย่างสนุก นาทีที่ 10 เจ้าบุญุท่มเกือบพลิกขึ้นนำบ้าง หลัง เนลสัน เซเมโด้ แทงบอลลอดขาแนวรับ "เสือใต้" ให้ ซัวเรซ หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาแต่ยังไม่ผ่านตัว มานูเอล นอยเออร์ ที่ช่วยให้บาเยิร์นไม่เสียประตูหวุดหวิด

    เกมรับ "เสือใต้" เกือบโดนอีก เมื่ออีกนาทีถัดมา ลิโอเนล เมสซี่ เปิดด้วยซ้ายโค้งมาหน้ากรอบ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ พยายามสอดมาสะบัดโขกแต่บอลไม่โดน เลยไปเสาไกลตกพื้นก่อนชนเสา

    นาที 20 ทัพอาซูลกราน่าสวนกลับมาได้ลุ้นอีก คราวนี้ บอลมาถึง เมสซี่ เลี้ยงตัดเข้ากลางก่อนซัดด้วยซ้ายแต่บอลบดและเบาไปเข้ามือ  นอยเออร์ อีกครั้ง

    นาที 22 แต่กลายเป็นว่า บาเยิร์น มิวนิค มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ เซร์จี โรแบร์โต้ ทำเสียบอลแดนกลางก่อนที่ แซร์จ นาบรี้ จะเลี้ยงตะลุยเข้าไปในพื้นที่อันตรายก่อนออกซ้ายให้ อิวาน เปริชิช ตัดสินใจซัดด้วยซ้ายมุมแคบบอลพุ่งเสียบเสาสองอย่างเฉียบขาด "เสือใต้" แซงนำเจ้าบุญทุ่ม 2-1

    เท่านั้นยังไม่พอ นาที 27 เสือใต้ท็อปฟอร์มมาพังประตูที่สามนำห่าง 3-1 ติอาโก้ จ่ายเข้ากลางมาให้ เลออน โกเร็ทซ์ก้า ตวัดจ่ายเร็วให้ แซร์จ นาบรี้ วิ่งเบียดล็องเล่ต์เข้าก่อนซัดด้วยขวาพุ่งเสียบต่าข่ายอย่างเด็ดขาด

    แนวรรับเจ้าบุญทุ่มรวนอย่างหนัก เอาไม่อยู่ นาที 31 บาเยิร์น มิวนิค มาได้ประตูนำโด่ง 4-1 จากจังหวะที่ โยชัว คิมมิช เติมขึ้นสูงก่อนครอสไปเสาแรกให้ โธมัส มุลเลอร์ สอดมายิงด้วยขวาผ่านตัว แทร์ ชเตเก้น เข้าไปและเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้

    โอกาสยังเป็นของ "พี่เสือ" อย่างต่อเนื่อง นาที 39 ได้ลุ้นอีกคราวนี้เป็นลูกคอนเนอร์ทางด้านขวา โยชัว คิมมิช เปิดมากลางประตูให้  โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โขกกดพื้นไปตรงตัว มาร์ก-อันเดร แทร์ ชเตเก้น

    นาที 45 ลูกทีมของ กีเก้ เซเตียน เกือบได้เม็ดที่สองไล่มาหลัง หลุยส์ ซัวเรซ เก็บอลหน้ากรอบพักอกแต่จังหวะซัดเร็วพุ่งไปเข้ามือ มานูเอล นอยเออร์


    จบครึ่งแรก บาร์เซโลน่า ตามหลัง บาเยิร์น มิวนิค 1-4

    ครึ่งหลัง บาร์เซโลน่า เปลี่ยนผู้เล่นคนแรกถอดเอา เซร์จี้ โรแบร์โต้ ออกแล้วส่ง อองตวน กรีซมันน์ ลงเล่นแทน

    แต่กลายเป็น "เสือใต้" ที่เปิดเกมรุกเข้าใส่และเกือบได้ลุ้นเม็ดที่ห้าในนาที 49 จากจังหวะที่ เลวานดอฟสกี้ จ่ายต่อให้ อิวาน เปริซิช วิ่งมากดด้วยขวาเน้นๆ ทว่าบอลยังพุ่งไปตรงตัว แทร์ ซเตเก้น

    นาที 53 มุลเลอร์ จ่ายง่ายๆให้ เลววานดอฟสกี้ แปเข้าไปโล่งๆ แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ประตูเนื่องจาก โธมัส มุลเลอร์ ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนแล้ว

    นาที 57 "เจ้าบุญทุ่ม" มาได้ประตูไล่มาเป็น 2-4 บอลวางยาวมาให้ จอร์ดี้ อัลบา ก่อนตวัดเร็วเข้ากลางให้ หลุยส์ ซัวเรซ เลี้ยงเข้าในกรอบก่อนล็อคด้วยขวาหนี เยโรม บัวเต็ง แล้วสับไกยิงด้วยซ้ายผ่านมือ นอยเออร์ เข้าไป

    สกอร์ยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ นาที 63 บาเยิร์น มิวนิค มาพังเม็ดที่ห้า นำโด่งหนีเป็น 5-2 จากความสุดยอดของไอ้หนู อัลฟอนโซ่ เดวิส ที่โชว์สเต็ปโยกหลอก เนลสัน เซเมโด้ ก่อนหลุดเข้าไปถึงในกรอบ 6 หลาแล้วปาดเข้ากลางมาให้ โยชัว คิมมิช จิ้มด้วยขวาเข้าไปอย่างง่ายดาย

    นาที 68 เสือใต้เกือบได้เม็ดที่หก หลัง มุลเลอร์ ถวายพานใส่ให้ คิงส์ลี่ย์ โกมัน ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาซัดด้วยขวาเน้นๆแต่บอลยังไปโดน จอร์ดี้ อัลบา ตามมาบล็อคบอลได้หวุดหวิด

    ลูกทีมของ ฮันซี่ ฟลิค ดาหน้าถล่มแหลก อีกนาทีถัดมาได้ส่องเข้ากรอบอีก คราวนี้ แทร์ ชเตเก้น ออกมาชกบอลไปเข้าทาง แซร์จ นาบรี้ วิ่งมาตะบันด้วยขวาเน้นๆแต่บอลพุ่งไปติดตัวนายด่านบาร์ซ่า

    นาที 82 "เสือใต้" นำโด่งเป็น 6-2 อย่างเหลือเชื่อ คราวนี้ คูตินโญ่ แข้งที่ยืมตัวมาจากบาร์ซ่าลงมาเป็นสำรองก่อนจะตักบอลให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โขกเข้าไปเป็นประตูที่ 14 ในรายการนี้นำดาวซัลโวแต่เพียงผู้เดียว

    เท่านั้นไม่พอ นาที 85 โธมัส มุมเลอร์ ไหลบอลให้ คูตินโญ่ แม้จังหวะแรกจะแตะบอลห่างแต่ยังสไลด์ยิงลอดขา ปิเก้ เข้าไปอย่างเฉียบขาด ให้ "เสือใต้" นำห่างถึง 7-2

    ก่อน อดีตดาวเตะหงส์แดง จะซัดใส่ทีมแม่อีกเม็ดในนาทีที่ 89 ซึ่งเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ช่วย บาเยิร์น มิวนิค ปิดกล่องคว้าชัยเหนือ บาร์เซโลน่า อย่างขาดลอยชนิดหมดสภาพ 8-2 คว้าตั๋วเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ โดยจะเข้าไปรอพบผู้ชนะระหว่าง แมนฯซิตี้ หรือลียง ในวันพุธที่ 19 สิงหาคม นี้

      รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

       บาร์เซโลน่า (4-3-1-2) : มาร์ก-อันเดร แทร์ ชเตเก้น - เนลสัน เซเมโด้, เคราร์ด ปีเก้, เกลม็องต์ ล็องเล่ต์, จอร์ดี้ อัลบา - เฟร็งกี้ เดอ ยอง, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ (อันซู ฟาติ น.70), เซร์จี โรแบร์โต้ (อองตวน กรีซมันน์ น.46) - ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ

        เทรนเนอร์ : กีเก้ เซเตียน

        บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ - โยชัว คิมมิช, เยโรม บัวเต็ง (นิคลาส ซือเล่ น.76), ดาวิด อลาบา, อัลฟอนโซ่ เดวิส (ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ น.84) - เลออน โกเร็ทซ์ก้า (โกแร็งแต็ง โตลิสโซ่ น.84), ติอาโก้ อัลกันตาร่า - แซร์จ นาบรี้ (ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ น.75), โธมัส มุลเลอร์, อิวาน เปริชิช (คิงสลี่ย์ โกมัน น.67) - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

     เทรนเนอร์ : ฮันซี่ ฟลิค

        ผู้ตัดสิน : ดามีร์ สโคมิน่า (สโลวีเนีย)

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :  ผลบอลเมื่อคืน, ผลบอลวันนี้, ดูบอลสด ออนไลน์

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF