1.This too shall pass สักครู่มันก็จะผ่านไป
ถ้าหากเราเป็นพุทธศาสนิกชน พวกเราก็น่าจะเคยชินกับคำอบรมสั่งสอนที่ว่า ทุกอย่ าง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ รวมทั้งดับไป
ไม่ว่าความจะเป็นความสุข หรือ ความทุกข์ มันก็จะไม่อยู่กับเราตลอดกาล เดี๋ยวมันก็จะผ่านพ้นไป เพียงแค่เข้าใจในเรื่องปกติข้อนี้
2.Somethings are going right มันก็มีบางเรื่องที่ดีบ้างหละ
ขณะที่พวกเราจมอยู่กับความทุกข์ทรมาน พวกเราก็มักจะจุดโฟกัสอยู่กับปัญหา จนลืมดูถึงสิ่งดีๆเยอะมากที่เกิดขึ้นในวันแล้ววันเล่า
ให้ทดลองใช้หลักการ gratitude journey ดูนะคะ ลองเขียนขอบพระคุณหรือเขียนสิ่งที่ดีในวันแล้ววันเล่าดูแล้วพวกเราจะพบว่า
อันที่จริงแล้ว ในชีวิตเราก็มีเรื่องมีราวดีๆเกิดขึ้นตั้งมาก กล้วยๆเลยเป็น เราตื่นขึ้นมาอีกหนึ่งวันด้วยสุขภาพที่แข็งแรงบริบูรณ์
พร้อมที่จะต่อสู้กับปัญหา รวมทั้งสร้างผลดีให้กับโลกใบนี้ได้อีกตั้งหนึ่งวัน ฯลฯ
3.I have some control มีเรื่องที่ฉันสามารถควบคุมได้
เมื่อกำเนิดปัญหาขึ้นอยู่กับพวกเรา มันก็จะดูราวกับว่าพวกเราจัดการอะไรกับมันมิได้สักอย่ าง แม้กระนั้นจริงๆแล้วสิ่งที่เราจัดการได้ ก็คือตัวเรา
ความคิดพวกเรา กรรมวิธีเลือกสนองตอบของเรา ควรมีสติ แล้วก็ใช้สติปัญญาสำหรับเพื่อการแก้ไข
ที่สำคัญจดจำไว้ว่า ความสุขหรือความทุกข์ เกิดที่ใจของเราเอง ไม่ใช่บุคคลอื่นเลย
4.I can ask for helpฉันขอความช่วยเหลือได้
ไม่แปลกเลยถ้าพวกเราจะขอร้องเมื่อเราปรารถนามัน เมื่อก่อนอื่นพวกเราควรจะพย าย ามแก้ไขปัญหาด้วยตัวเราเองเสียก่อน แต่ว่า
เมื่อมันเหนือบ่ากว่าแรง การขอร้องจากบุคคลอื่นก็ไม่ใช่เรื่องไม่ถูก
โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในครอบครัวของพวกเรา ผู้ที่รักเรา พวกเขาพร้อมจะช่วยเหลือเราเสมอ คุณมิได้อยู่ตามลำพังบนโลกใบนี้นะคะ
5.Much of this won’t matter in a few years หลายเรื่องที่เกิดขึ้น ในอีกไม่กี่ปีด้านหน้ามันก็จะไม่มีความจำเป็นอะไรอีกต่อไป
คิดถึงตอนเราเป็นเด็กสิค่ะ ปัญหาอันใหญ่หลวงของเราก็คือ การลืมสมุดการบ้าน
พวกเรารู้สึกเครียดราวกับโลกจะถล่มทลายมากมายๆแม้กระนั้นพอพวกเราโตขึ้น พวกเรามองดูย้อนกลับไป
พวกเราก็หัวเราะให้ประเด็นนั้นๆได้ ปัญหาทุกปัญหาผ่านมาเพื่อทำให้เรา แข็งแกร่ง และก็เติบโตขึ้น
เมื่อคุณผ่านมันไปได้ เรื่องนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เปรียบเสมือนเรื่องสมุดการบ้านในวัยเด็กของคุณเพียงแค่นั้น
6.I can handle this ฉันจัดการมันได้
ไม่มีใครจะมั่นอกมั่นใจในตัวเรา ถ้าหากเรายังไม่มั่นใจในตัวเราเองก่อน ไม่มีใครจะช่วยเราได้ตลอด ถ้าหากพวกเราไม่ให้ความช่วยเหลือตัวเอง ไม่ว่าจะกำเนิดปัญหา
อะไรขึ้นในชีวิต ต้องมีสติ แล้วให้กำลังใจกับตนเองว่า ฉันจะจัดแจงมันได้
หากว่าในช่วงเวลานั้นพวกเราจะรู้สึกแย่เพียงไหน ก็จงจำไว้ว่า เราจะผ่านมันไปได้
7.Something good will come out of this เรื่องดีๆจะเกิดจากเหตุการณ์นี้
เหรียญยังมีสองด้าน เหมือนๆกับทุกเรื่องราวในชีวิตของพวกเราที่มีนานัปการดูให้เลือกมองในวันที่เราเผชิญกับปัญหา
ตัวอย่างเช่น คนที่เรารักแล้วก็ทุ่มเททุกอย่างทุกอย่ างให้ กลับมาทิ้งพวกเราไป โน่นบางทีอาจเป็นบทเรียนแล้วก็บททดสอบที่สำคัญ
ที่ทำให้พวกเรากลับมารู้จักรักตัวเอง และเห็นคุณค่าของตัวเองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เริ่มทำอะไรดีๆให้ชีวิต แทนที่จะเสียเวล่ำเวลาไปกับความทุกข์ใจ
เหมือนก่อนหน้านี้ แล้วก็ผลที่เกิดก็คือ ชีวิตพวกเราดียิ่งขึ้น ปรับปรุงไปตามที่เราได้คาดหวังไว้ ด้วยความสามารถของเราเอง ฯลฯ ควรมองหาจุดเด่นให้เจอ
8.I can accept what’s out of my control ฉันสามารถยอมรับในสิ่งที่อยู่นอกจากการควบคุมของฉันได้
ในชีวิตจริงมีสาเหตุจำนวนมากที่พวกเราไม่สามารถควบคุมได้ ยิ่งเราอย ากควบคุมมันเยอะแค่ไหน อย ากไปบังคับมันเท่าไร เรายิ่งมีความทุกข์
การทำใจเห็นด้วยความจริงข้อนี้ให้ได้ และปล่อยวาง เอากำลังกาย พลังใจที่มีไปทุ่มเทให้กับสิ่งที่พวกเราควบคุมได้ โน่นคือ ตัวเราเองดีกว่า
9.I have overcome past difficulties ฉันเคยผ่านเรื่องย ากๆมาแล้วในชีวิต
บางเวลาการย้อนไปมองการบรรลุผลก่อนหน้าที่ผ่านมาก็ช่วยเราได้ ความมุ่งมั่น ความพย าย าม
หรือเรื่องราวย ากลำบากก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาแล้วในอดีตกาล เรายังเคยผ่านมันมาได้
และนี่ก็เป็นแค่อีกหนึ่งบททดสอบที่พวกเราก็จะผ่านมันไปได้เหมือนกัน
10.I need to take care of myself ฉันจึงควรดูแลตนเอง
ไม่มีผู้ใดจะรักพวกเราได้มากพอๆกับพวกเรารักตนเองค่ะ ฉะนั้น จงดูแลสุขภาพเกี่ยวกับร่างกาย สุขภาพดวงใจของเราให้ดี
ในชีวิตนี้มีเรื่องมีราวราวอีกเยอะแยะที่รอคอยพวกเราอยู่ อย่ าหยุดตัวเอง เพียงปัญหาชั่วคราวในวันนี้ สู้ถัดไปนะคะ
ข้อคิดขอบคุณบทความจาก
https://freelydays.com/13250/
