UOB ประกาศรุกขยายธุรกิจในไทยเต็มที่รับศักยภาพโต
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 05 พฤษภาคม 2024 เวลา 07:36:40 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: หากสมาชิกท่านใดเข้ามาป่วนเว็บ หรือ ก่อกวนกระทู้บุคคลอื่น หรือ โพสข้อมูล รูปภาพ ที่ผิดต่อกฏกติกา มารยาทอันดีงามของสังคมของเรา
ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับการเมืองแบบเลือกสีเลือกฝ่าย ผู้ดูแลจะพิจารณาลบข้อมูล และลบ User ท่านออกโดยขออนุญาตไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: UOB ประกาศรุกขยายธุรกิจในไทยเต็มที่รับศักยภาพโต  (อ่าน 51 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Chigaru
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12932


« เมื่อ: วันที่ 17 มกราคม 2022 เวลา 19:39:12 »


UOB ประกาศรุกขยายธุรกิจในไทยเต็มที่รับศักยภาพโตหลังซื้อพอร์ตรายย่อยซิตี้กรุ๊ป

นาย วี อี เชียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารยูโอบี (UOB) เปิดเผยว่า การเข้าซื้อธุรกิจลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ป (citi group) ในไทย เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย มีมูลค่ารวม 4 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ คาดว่ากระบวนการทยอยรับโอนธุรกิจรายย่อยจาก citi group ในไทยและมาเลเซียจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/65 ส่วนอินโดนีเซียน่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/65 และเวียดนามจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/66

ในส่วนของประเทศไทย การควบรวมธุรกิจลูกค้ารายย่อยจาก citi ในไทยเข้ามาจะช่วยเสริมศักยภาพให้กับ UOB ให้มีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น ดังนั้น UOB พร้อมจะเดินหน้ารุกขยายธุรกิจในประเทศไทยเพื่อสร้างการเติบโต ทำให้มีความสามารถในการแข่งขันและแข็งแกร่งมากขึ้น ประกอบกับ เพื่อเป็นการเชื่อมโยงกลุ่มลุกค้าในภูมิภาคอาเซียนให้กับกลุ่ม UOB แม้ว่าการแข่งขันในธุรกิจรายย่อยในประเทศไทยจะมีความรุนแรง แต่ธนาคาร UOB ในประเทศไทยยังมีศักยภาพในการเติบโตที่ดี และกลุ่มลูกค้าของ citi ในไทย ถือว่ามีคุณภาพดี ทำให้ธนาคารสามารถต่อยอดการนำเสนอผลิตภัณฑ์บริการทางการเงินต่างๆได้มากขึ้น

"ธุรกิจรายย่อยในไทยยอมรับว่ามีการแข่งขันที่สูงและรุนแรง แต่เรายังมองว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการเติบโตได้ดี การที่รวมพอร์ตลูกค้ารายย่อยจาก citi ในไทยเข้ามาถือว่าเราได้ลูกค้าที่มีคุณภาพ และมีฐานลูกค้าที่ได้เข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้ธุรกิจในไทยสามารถต่อยอดการให้บริการต่างๆกับลูกค้าเพิ่มเติมได้ ทำให้เราสามารถ Scale up ธุรกิจในไทย ให้มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น ซึ่งยอมรับว่าสำหรับประเทศไทยเราจ่ายค่าพรีเมียมที่สูงกว่าประเทศอื่นๆค่อนข้างมาก และเป็นประเทศที่มีฐานลูกค้าและคุณภาพของลูกค้าที่ดีมากที่สุด ทำให้เราค่อนข้าง Happy กับพอร์ตของ citi ในประเทศไทยที่เราได้มา และ Contribute โอกาสต่างๆให้กับเราและประเทศไทยด้วย ซึ่งเชื่อว่า 1+1 more than 2 แน่นอน" นาย วี อี เชียง กล่าว
UOB คาดว่าธุรกิจรายย่อยในประเทศไทยของ UOB หลังจากรับโอนพอร์ตธุรกิจรายย่อยจาก citi ประเทศไทย2/65 จะทำให้ ส่วนแบ่งตลาด (Market share) ธุรกิจรายย่อยในไทยจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 6 จากเดิมอันดับ 5 โดยมีฐานลูกค้าจาก 1.3 ล้านราย เพื่มเป็น 2.4 ล้านราย ด้านธุรกิจบัตรเครดิตจะขึ้นมาอยู่ที่อันดับที่ 3 หรือปรับเพิ่มขึ้นมา 5 อันดับ อีกทั้งจะทำให้ UOB มีศักยภาพในการขยายสินเชื่อในประเทศไทยเร่งการเติบโตถึงได้อีกเท่าตัว

นาย วี อี เชียง กล่าวว่า การเข้าซื้อพอร์ตรายย่อยของ citi group ทั้ง 4 ประเทศดังกล่าวเพื่อเสริมศักยภาพในการสร้างเครือข่ายในภูมิภาคอาเซียนให้แข็งแกร่งมากขึ้น และเชื่อมโยงเครือข่ายของลูกค้าในอาเซียนเข้าด้วยกัน รวมถึงการเชื่อมโยงบริการที่เป็น Tradional Bank และ Digital Bank รวมถึงเห็นโอกาสการขยายตลาดในอาเซียนมากขึ้นจากการเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวมของอาเซียนที่จะกลับมาฟื้นตัวได้ดีหลังจากผ่านการแพร่ระบาดโควิด-19 ไปแล้ว จากการค้าและการลงทุนต่างๆที่จะเกิดขึ้นอีกมาก โดยเฉพาะในเวียดนามมีโอกาสการเติบโตในระยะยาวที่ดี อีกทั้งยังทำให้อัตราส่วนผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (ROE) ของ UOB เพิ่มเป็นมากกว่า 13% ในปี 66
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF