BBLAM นำเสนอ B-SELECT คำแนะนำกองทุนที่เหมาะเพิ่มน้ำหนักลงทุนประจำไตรมาส 2 ปี 2565
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 08 พฤษภาคม 2024 เวลา 13:51:14 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: หากสมาชิกท่านใดเข้ามาป่วนเว็บ หรือ ก่อกวนกระทู้บุคคลอื่น หรือ โพสข้อมูล รูปภาพ ที่ผิดต่อกฏกติกา มารยาทอันดีงามของสังคมของเรา
ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับการเมืองแบบเลือกสีเลือกฝ่าย ผู้ดูแลจะพิจารณาลบข้อมูล และลบ User ท่านออกโดยขออนุญาตไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: BBLAM นำเสนอ B-SELECT คำแนะนำกองทุนที่เหมาะเพิ่มน้ำหนักลงทุนประจำไตรมาส 2 ปี 2565  (อ่าน 92 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Beer625
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 15918


« เมื่อ: วันที่ 10 เมษายน 2022 เวลา 02:36:58 »


BBLAM นำเสนอ B-SELECT คำแนะนำกองทุนที่เหมาะเพิ่มน้ำหนักลงทุนประจำไตรมาส 2 ปี 2565

BBLAM แนะนำกองทุนที่เหมาะเพิ่มน้ำหนักลงทุนประจำไตรมาส 2 ปี 2565 เนื่องจากเป็นธีมการลงทุนระยะยาว และมูลค่าน่าสนใจเพิ่มขึ้น ทั้ง B-SIP, B-CHINE-EQ, B-INNOTECH และ B-GLOB-INFRA เสริมด้วยคำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นไทย กับ B-SMEQ

นายสันติ ธนะนิรันดร์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 นี้ ปัจจัยทางเศรษฐกิจหลักๆ ที่มีผลต่อการลงทุนยังไม่เปลี่ยนแปลง ได้แก่ ทิศทางเงินเฟ้อที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง การดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการดูดซับสภาพคล่องในระบบ ส่วนปัจจัยที่เพิ่มมา คือ สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลต่อเงินเฟ้อ เนื่องจากทำให้ราคาพลังงาน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้นรวดเร็ว และทำให้เกิดปัญหาการหยุดชะงักในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Disruption) ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มมีผลกับตลาดน้อยลง

จากปัจจัยที่กล่าวมา ทีม Investment Strategy ของ BBLAM ได้จัดทำคำแนะนำการลงทุน B-SELECT คัดเลือก 4 กองทุนต่างประเทศที่สอดคล้องกับเทรนด์การลงทุนระยะยาว และมองเห็นโอกาสในการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ เนื่องจากมูลค่าหุ้นกลุ่มที่กองทุนลงทุนปรับลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ รวมทั้งเป็นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตได้ท่ามกลางเงินเฟ้อ ได้แก่ กองทุนเปิดบัวหลวงยั่งยืน (B-SIP) กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ) กองทุนเปิดบัวหลวงโกล.อินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH) และกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกล.อินฟราสตรัคเจอร์ (B-GLOB-INFRA)

สำหรับเหตุผลที่แนะนำ B-SIP เนื่องจาก BBLAM มองว่า ในช่วงที่ราคาพลังงานสูงขึ้นและประเทศต่างๆ โดยเฉพาะยุโรปมีปัญหาขาดแคลนพลังงาน จนต้องเร่งทำแผนเพื่อเพิ่มการผลิตพลังงานสะอาด หรือ REpowerEU ทำให้เห็นความสำคัญเรื่องการลงทุนในบริษัทพลังงานสะอาดชัดเจนขึ้น เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนอย่างมาก

ส่วน B-CHINE-EQ เราให้เพิ่มน้ำหนักลงทุนต่อเนื่องจากไตรมาสแรก โดยมองว่า ตลาดมีมุมมองบวกต่อหุ้นจีนมากขึ้น หลังรัฐบาลจีนผ่อนคลายความกังวลให้ในหลายข้อ โดยเฉพาะเรื่องหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยยังมีความกังวลในเรื่องนโยบาย Zero Covid Policy ที่อาจกระทบภาวะเศรษฐกิจ จากการล็อคดาวน์เมืองเซินเจิ้นและเซี่ยงไฮ้ อย่างไรก็ตาม มูลค่าหุ้นจีน โดยเฉพาะในตลาดฮ่องกง อยู่ในระดับที่น่าสนใจ อีกทั้งเงินเฟ้อไม่สูงเกินไป ทำให้มีโอกาสที่ตลาดจะได้เห็นนโยบายการเงินผ่อนคลายเพิ่มเติม

ขณะที่ B-INNOTECH ก็เป็นอีกกองทุนหนึ่งที่ BBLAM แนะนำเพิ่มน้ำหนักลงทุนต่อเนื่องจากไตรมาสแรก เนื่องจากมองว่า หุ้นบริษัทเทคโนโลยีถูกเทขายจากความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed และเงินเฟ้อ จนทำให้มูลค่าถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ก็มีความสามารถในการปรับตัว มีความสามารถในการแข่งขัน และสามารถปรับราคาขึ้นได้ จึงได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อค่อนข้างจำกัด และกองทุน B-INNOTECH ได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนกลุ่มเทคโนโลยีคลาวด์ และฟินเทคเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดี

ส่วนกองทุน B-GLOB-INFRA เรามองว่าหุ้นโครงสร้างพื้นฐานเป็นหุ้นเชิงรับ หรือ Defensive ที่มีความน่าสนใจ ในภาวะเงินเฟ้อสูงและเศรษฐกิจชะลอตัว เนื่องจากรายได้ของบริษัทโครงสร้างพื้นฐานสามารถปรับตัวขึ้นไปพร้อมเงินเฟ้อได้ และธุรกิจก็มีแนวโน้มเติบโต เช่น ธุรกิจพลังงานสะอาด

นายสันติ กล่าวว่า นอกเหนือจากคำแนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน 4 กองทุนหุ้นต่างประเทศที่กล่าวมาแล้ว หากนักลงทุนมองหาการลงทุนหุ้นไทยอยู่ BBLAM ก็แนะนำให้ลงทุนผ่าน กองทุนเปิดบัวหลวง Small Mid Equity หรือ B-SMEQ เนื่องจากหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กเป็นดาวเด่นที่จะเติบโตได้ในระยะยาว

"ในฐานะที่ BBLAM เป็นบริษัทจัดการที่เน้นเรื่องการลงทุนระยะยาว มองว่า ในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวน ก็เป็นโอกาสของการเข้าไปลงทุนในบริษัทที่มีพื้นฐานดี แต่มูลค่าปรับลดลงมากเกินไปจนทำให้มูลค่าน่าสนใจ ส่วนนักลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามภาวะตลาด และมองว่าการจับจังหวะลงทุนเป็นเรื่องที่ยาก ก็สามารถใช้วิธี DCA ทยอยลงทุนต่อเนื่องทุกเดือนด้วยเงินงวดละเท่าๆ กัน ในกองทุนที่ลงทุนในเทรนด์ที่มีโอกาสเติบโตระยะยาวได้" นายสันติ กล่าว

ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดกองทุนของ BBLAM ได้ที่เว็บไซต์ bblam.co.th หรือ โทร. 02-674-6488 กด 8 นอกจากนี้ยังลงทุนได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ หรือ BF Fund Trading จาก BBLAM รวมทั้งช่องทางของตัวแทนขายที่ได้รับการแต่งตั้ง

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นกับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF