SPCGปลื้มยอดจองหุ้นกู้กรีนบอนด์เกิน3เท่า จ่อนำเงินกว่า1พันล้าน
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 07 พฤษภาคม 2024 เวลา 00:30:22 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: ห้ามโพสปั่นลิงก์ SEO ในส่วนของ ลายเซ็นสมาชิกเพื่อจะแสดงที่ด้านล่าง ของแต่ละข้อความที่ตอบกระทู้ เช่น คาสิโน บาคาร่า แทงบอล ฯลฯ เด็ดขาด
หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: SPCGปลื้มยอดจองหุ้นกู้กรีนบอนด์เกิน3เท่า จ่อนำเงินกว่า1พันล้าน  (อ่าน 95 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Naprapats
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11310


« เมื่อ: วันที่ 04 ตุลาคม 2021 เวลา 18:54:04 »




SPCGปลื้มสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่แห่จองหุ้นกู้กรีนบอนด์ ยอดเกินกว่า 3 เท่าที่ออกขาย 1,500 ล้านบาท เผยเตรียมนำเงินกว่า 1,000 ล้านบาท ที่ได้ใส่ร่วมทุนให้โครงการ Ukujima Mega Solar Project ที่ญี่ปุ่นที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2566

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG กล่าวว่า บริษัทประสบความสำเร็จจากการขายหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือ กรีนบอนด์ ครั้งที่ 1/2564 วงเงินรวม 1,500 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 1.73% โดยเสนอขายให้ผู้ลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth) สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากปรากฏว่ามียอดจองเกินกว่าจำนวนหุ้นกู้ที่บริษัทขายกว่า 3 เท่า โดยการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ เป็นหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และได้รับอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริส เรทติ้ง ที่ระดับ “A-” แนวโน้ม “Stable”

บริษัทมีแผนนำเงินจากการเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าว เพื่อใช้ลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์ม Ukujima Mega Solar Project ที่ญี่ปุ่น ทั้งยังเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจของบริษัทต่อไปในอนาคต



ทั้งนี้โครงการดังกล่าว มีงบการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 178,758 ล้านเยน โดยบริษัทฯ ถือหุ้น 17.92% คิดเป็นเงินลงทุน 9,000 ล้านเยน ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ได้ชำระทุนไปแล้วจำนวน 2 รอบ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 จำนวนเงิน 2,289 ล้านเยน และวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 จำนวนเงิน 1,924 ล้านเยน ดังนั้นบริษัทจะนำเงินไปทยอยจ่ายเงินเพิ่มทุนให้กับ Ukujima ในงวดที่ 3 และ 4 เร็วๆ นี้ ส่วนงวดสุดท้ายกว่า 1,000 ล้านบาท บริษัทจะชำระทุนที่เหลือหรือประมาณ 4,000 กว่าล้านเยน ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2565 เพราะเป็นสัญญาการจ่ายเงินตามความคืบหน้าโครงการ

เนื่องจากที่ประเทศญี่ปุ่นได้ประสบกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับประเทศอื่นทั่วโลก ทำให้งานก่อสร้างล่าช้าออกไปจากแผนงานเดิมเล็กน้อย

ปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างขั้นตอนการก่อสร้าง และคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้สร้างผลตอบแทนที่ดีให้บริษัท ได้ในปี 2566 เป็นต้นไป เนื่องจากเป็นปีที่โครงการตั้งเป้าดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ COD และจะเริ่มรับรู้รายได้เต็มในปี พ.ศ.2567 เป็นต้นไป เช่นเดียวกับโครงการโซลาร์ฟาร์มแห่งอื่นที่ญี่ปุ่นที่บริษัทได้เข้าไปลงทุนและให้ผลตอบแทนที่ดีกลับคืนมา

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับเครดิตขององค์กรอยู่ที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” และได้รับการจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาท  ที่ระดับ “A-” จากทริสเรทติ้ง สะท้อนถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ และความมั่นคงแข็งแกร่งขององค์กรจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF