หุ้นไทยปิดบวก 5.28 จุด รับแรงซื้อกลุ่มพลังงาน-ธนาคารพาณิชย์หนุน หลังบอนด์ยีลด์ปรับขึ้น และจีดีพีไทยออกมาดีกว่าคาดการณ์ ท่ามกลางการติดตามผลหารือของประธานาธิบดีสหรัฐกับจีน บจ.ไทยทยอยประกาศงบไตรมาส 3 ปี 64 และสถานการณ์ไวรัสโควิด -19 ยังไม่แน่นอน
ตลาดหุ้นไทยวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 เคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน รับแรงซื้อหุ้นใหญ่กลุ่มพลังงานและธนาคารพาณิชย์เป็นหลัก หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) ปรับขึ้น รวมถึงคาดการณ์เศรษฐกิจจะดีขึ้น จากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ปี 64 ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ ท่ามกลางการรอติดตามความคืบหน้าการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐกับจีน การทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน(บจ.) และสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่แน่นอน ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,644.01 จุดเพิ่มขึ้น 5.28 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 0.32% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 86,414.00 ล้านบาท ขณะที่ ดัชนีสูงสุดอยู่ที่1,648.43 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,639.08 จุด
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
SCB ปิดที่ 134.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,017.91 ล้านบาท
TRUE ปิดที่ 4.12 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 3,505.18 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 148.00 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 3,189.40 ล้านบาท
EA ปิดที่ 69.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,276.68 ล้านบาท
ONEE ปิดที่ 10.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,081.29 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่ดันดัชนีมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
BAY ปิดที่ 35.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท มีผลต่อดัชนี 0.7836 จุด
INTUCH ปิดที่ 77.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท มีผลต่อดัชนี 0.4782 จุด
SCB ปิดที่ 134.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มีผลต่อดัชนี 0.4341 จุด
MEGA ปิดที่ 52.75 บาท เพิ่มขึ้น 5.25 บาท มีผลต่อดัชนี 0.3901 จุด
CPN ปิดที่ 58.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท มีผลต่อดัชนี 0.3825 จุด
