ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 128.85 จุด นักลงทุนจับตาประชุมเฟด
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 13 พฤษภาคม 2024 เวลา 18:23:56 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เตือนเพื่อนสมาชิก ระวัง นาย ธนันท์ วงค์วัฒนามงคล หลอกลวงสมาชิกที่ลงหาของในเวปโดยอ้างว่ามีสินค้าขายในราคาถูกและให้โอนเงินแต่ไม่ส่งสินค้าให้ โดยขณะนี้มีผู้ถูกหลอกหลายราย เบอร์โทรที่ใช้ 088-9526897 บัญชี ธ.ทหารไทย 2152261794/ ธ.กสิกรไทย 8530024230
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 128.85 จุด นักลงทุนจับตาประชุมเฟด  (อ่าน 86 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
deam205
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11960


« เมื่อ: วันที่ 05 พฤศจิกายน 2022 เวลา 19:48:45 »



ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (31 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 1-2 พ.ย.นี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,732.95 จุด ลดลง 128.85 จุด หรือ -0.39%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,871.98 จุด ลดลง 29.08 จุด หรือ -0.75% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,988.15 จุด ลดลง 114.31 จุด หรือ -1.03%

ไรอัน เดทริค นักวิเคราะห์จากบริษัทคาร์สัน กรุ๊ปกล่าวว่า ตลาดหุ้นนิยอร์กปิดอ่อนแรงลงในวันจันทร์ หลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในวันอังคารที่ 1 พ.ย. และจะแถลงมติการประชุมในวันพุธที่ 2 พ.ย.ตามเวลาสหรัฐ

ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งนี้ และหากเป็นไปตามคาด ก็จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกัน 4 ครั้ง หลังจากปรับขึ้น 0.75% ในเดือนมิ.ย.,ก.ค.และก.ย.

ตลอดเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 13.95% ทำสถิติรายเดือนที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2519 ขณะที่ดัชนี S&P ปรับตัวขึ้น 7.99% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 3.9%

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร โดยหุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 1.85% หุ้นไมโครซอฟท์ ดิ่งลง 1.59% หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ ร่วงลง 6.09% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 1.30%

หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 1.54% หลังจากสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า การผลิต iPhone ที่โรงงานบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ในเมืองเจิ้งโจว ซึ่งเป็นโรงงานประกอบ iPhone ขนาดใหญ่ที่สุดของแอปเปิล อาจลดลงมากถึง 30% ในเดือนหน้า เนื่องจากการใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เข้มงวดของจีน

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 0.12% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 1.31% หุ้นเชฟรอน บวก 0.51%

นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนต.ค.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย. ซึ่งจะเป็นการ.ครั้งใหญ่ระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน โดยจะมีการชิงชัยเก้าอี้ทั้งหมดในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจำนวน 435 ที่นั่ง รวมทั้งการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 35 ราย จากทั้งหมด 100 ราย นอกจากนี้ ยังมีการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐใน 39 มลรัฐ รวมทั้งการเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอีกจำนวนมาก ซึ่งหากพรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะเหนือพรรคเดโมแครต ก็จะทำให้การผ่านกฎหมายต่าง ๆ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นไปอย่างยากลำบาก ท่ามกลางคะแนนนิยมที่ตกต่ำของปธน.ไบเดนในขณะนี้

ผลการสำรวจของ RealClearPolitics พบว่า พรรครีพับลิกันจะสามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐหลังการเลือกตั้งกลางเทอม จากปัจจุบันที่พรรคเดโมแครตมีเสียงข้างมากอยู่เล็กน้อย ส่วนการเลือกตั้งในวุฒิสภาจะเป็นไปอย่างสูสีระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ซึ่งก่อนการเลือกตั้งทั้งสองพรรคมีคะแนนเสียงเท่ากันอยู่ที่ 50-50
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF