‘ไทยพาณิชย์’ เจาะเคล็ดลับขายดีร้านดัง Honmono Sushi และ Kapong Delivery
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 17 พฤษภาคม 2024 เวลา 02:48:30 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: หากสมาชิกท่านใดเข้ามาป่วนเว็บ หรือ ก่อกวนกระทู้บุคคลอื่น หรือ โพสข้อมูล รูปภาพ ที่ผิดต่อกฏกติกา มารยาทอันดีงามของสังคมของเรา
ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับการเมืองแบบเลือกสีเลือกฝ่าย ผู้ดูแลจะพิจารณาลบข้อมูล และลบ User ท่านออกโดยขออนุญาตไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ‘ไทยพาณิชย์’ เจาะเคล็ดลับขายดีร้านดัง Honmono Sushi และ Kapong Delivery  (อ่าน 166 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Beer625
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 15918


« เมื่อ: วันที่ 12 กันยายน 2021 เวลา 21:23:33 »




ในสถานการณ์ที่โควิด-19 กำลังแพร่ระบาด ผู้ประกอบการต่างได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการที่ลูกค้าไม่สามารถนั่งรับประทานอาหารที่ร้านได้เช่นสถานการณ์ปกติ ซึ่งขัดกับธรรมชาติของธุรกิจที่นอกจากเป็นการขายรสชาติและคุณภาพของอาหารแล้ว ยังขายบรรยากาศให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการในภาวะเช่นนี้ผู้ประกอบการร้านอาหารจำเป็นต้องหาทางออกและปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างหนทางรอดให้กับธุรกิจ

นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ถึงแม้ผู้ประกอบการร้านอาหารจะสามารถผ่านบททดสอบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกแรกเมื่อปีก่อนมาได้ แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าการปรับตัวที่ผ่านมานั้นจะเพียงพอที่พาธุรกิจฝ่าโจทย์ที่ท้าทายมากกว่าในปีนี้ไปได้หรือไม่ ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรงและขยายวงกว้างทำให้มาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดมีความเข้มงวดโดยผันแปรตามความรุนแรงของการแพร่ระบาดในแต่ละพื้นที่ ซึ่งคาดการณ์ได้ยากว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติได้เมื่อใด และส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างมากไม่สามารถเดินทางมาที่ร้านได้เหมือนเดิม ต้องสั่งอาหารผ่านทางเดลิเวอรี่หรือออนไลน์มากยิ่งขึ้น ร้านอาหารต้องปรับตัวอย่างหนักเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในตลาดใหม่ที่หลายร้านยังไม่ถนัดหรือมีความรู้เพียงพอในการแข่งขันให้ร้านอาหารอยู่รอด
ดังนั้นธนาคารจึงมุ่งเน้นการให้ความรู้เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถกู้วิกฤตและพลิกกลับมามียอดขายได้ดีอีกครั้งด้วยการขายผ่านออนไลน์หรือเดลิเวอรี่ให้มากขึ้น โดยได้เชิญ เชฟบุญธรรม ภาคโพธิ์ แชมป์เชฟกระทะเหล็ก เจ้าของร้าน Honmono Sushi และนายชลวิทย์ ไตรโลกา เจ้าของร้านกะพง Kapong Delivery มาร่วมบอกเล่าเทคนิคการปรับตัวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในงานสัมมนา “เปิดสูตรลับ ปรับกลยุทธ์ธุรกิจอาหารต้องรอด” ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ได้จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ โดยผู้ประกอบการทั้ง 2 รายถือเป็นตัวอย่างของธุรกิจที่สามารถปรับตัวฝ่าวิกฤตได้อย่างประสบความสำเร็จ


เชฟบุญธรรม ภาคโพธิ์ แชมป์เชฟกระทะเหล็กและเจ้าของร้าน Honmono Sushi กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 บีบบังคับให้ธุรกิจร้านอาหารแบบดั้งเดิมยิ่งต้องเร่งปรับตัวเพื่อให้ยังอยู่รอด จึงแนะนำผู้ประกอบการร้านอาหารไม่ควรหยุดพักและตั้งความหวังรอสถานการณ์ดีขึ้นแล้วค่อยกลับมาเปิดร้านปกติ ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ยากว่าเราต้องอยู่กับภาวะแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ Honmono Sushi เองนั้น ในช่วงระลอกแรกของการระบาดเมื่อปี 2563 เราได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง เพราะธุรกิจมีรายได้จากหน้าร้านเป็นหลักช่องทางเดียว อีกทั้งยังไม่มี เดลิเวอรี่ นับเป็นความท้าทายกับธุรกิจช่วงนั้นมาก ปัจจัยเหล่านี้จึงทำให้ธุรกิจเริ่มเร่งปรับตัวและเปลี่ยนวิธีการทำธุรกิจใหม่ในทันที จึงทำให้เราสามารถรับมือกับการระบาดระลอกต่อๆมาได้อย่างดี มีเคล็ดลับที่อยากจะเล่าให้ฟังหลักๆ 3 เรื่อง ได้แก่ 

1) กระโดดเข้าสู่ตลาดออนไลน์ทันที ช่องทางหลักที่ทำให้ธุรกิจยังมียอดขายในช่วงโควิด-19 คือ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ถึงแม้ในช่วงแรกผลตอบรับไม่เป็นดั่งที่คาดหวัง แต่เมื่อเรียนรู้และใช้โอกาสนี้ในการพูดคุยกับลูกค้าจึงทำให้มองเห็นจุดแข็งตัวเองชัดเจนยิ่งขึ้น
จนสามารถเข้าใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังเป็นช่องทางขายสำหรับธุรกิจของเราได้อย่างถาวร 

2) สร้างลูกเล่นในการขายด้วยไอเดียใหม่ๆ การกระโดดเข้าสู่ช่องทางขายออนไลน์ทำให้เราพบว่ามีรูปแบบการขายที่น่าสนใจ ทำให้เกิดไอเดียใหม่ๆที่นำมาสร้างลูกเล่นให้การขายของเราสนุกยิ่งขึ้น เช่น การถ่ายทอดสดขายอาหาร เปิดประมูลวัตถุดิบ และสอนวิธีการทำอาหาร ซึ่งได้รับกระแสการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี มีกลุ่มลูกค้าติดตามมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจมียอดขายอย่างต่อเนื่อง 

และ 3) ปรับบทบาทหน้าที่พนักงานให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจใหม่ เมื่อโมเดลธุรกิจต้องเปลี่ยนไปจากเดิม ทำให้พนักงานต้องเรียนรู้หน้าที่ใหม่ ซึ่งเราเปิดโอกาสให้พนักงานได้หมุนเวียนทำหน้าที่ต่างๆ เช่น ทำหน้าที่ Admin ตอบคำถามลูกค้าทางออนไลน์และทางโทรศัพท์ หน้าที่ในการทำอาหาร หน้าที่ในการจัดส่งอาหารให้กับลูกค้า ในส่วนนี้จะทำให้พนักงานมีการฝึกฝนตนเองให้รู้จักร้านของเรารู้จักเมนูอาหาร วัตถุดิบ และรู้จักลูกค้าได้เป็นอย่างดี

ในขณะที่ธุรกิจแบบดั้งเดิมกำลังพยายามเร่งปรับตัวเพื่อหนีตายจากวิกฤตในครั้งนี้ หากยังมีผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากพิษโควิด-19 ที่ยังไม่ยอมแพ้ จนสามารถสร้างธุรกิจอาหารขึ้นมาใหม่ในยุคโควิด-19 ได้อย่างประสบความสำเร็จ อย่างเช่น ร้านกะพง Kapong Delivery


นายชลวิทย์ ไตรโลกา เจ้าของร้านกะพง Kapong Delivery กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยทำธุรกิจหลายอย่างที่ต้องปิดตัวลงเพราะต้านทานผลกระทบจากโควิด-19 เมื่อปี 2563 ไม่ไหว แต่ก็พยายามหาทางรอดทางใหม่ให้ได้ในทันที โดยนำประสบการณ์จากธุรกิจเดิมมาเป็นบทเรียน ทั้งเรื่องการแบกรับค่าใช้จ่ายหน้าร้าน หรือการเสียค่า GP ราคาสูงให้แก่ตัวแทนเดลิเวอรี่ ปรับเป็นโจทย์และแก้เกมส์ด้วยการทำธุรกิจใหม่แบบไม่มีหน้าร้าน มี Cloud Kitchen และมุ่งเน้นส่งเดลิเวอรี่ด้วยตัวเองเป็นหลัก รวมทั้งการสำรวจตลาดที่พบว่า เมนูปลากะพงทอดน้ำปลาเป็นเมนูที่คนนิยมทาน แต่ยังขาดผู้เล่นในตลาดเดลิเวอรี่จึงทำให้ตัดสินใจเริ่มทำธุรกิจร้านกะพง Kapong Delivery ในช่วงมกราคม 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาดมาอย่างต่อเนื่อง แต่ธุรกิจยังคงแข็งแกร่งมียอดขายเข้ามาตลอด โดยเคล็ดลับที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จมีอยู่ด้วยกัน 3 เรื่อง คือ 

1) มองหาช่องว่างในตลาดและเติมเต็มด้วยสินค้าของเรา เป็นสิ่งสำคัญที่ธุรกิจยึดนำมาปรับใช้และคอยสำรวจตลาดเพื่อคอยตอบสนองความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ เช่น ขายปลากะพงทอดน้ำปลาเหมือนกันแต่มีเพียงเจ้าเดียวที่ขายแบบครึ่งตัว เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าให้สามารถเลือกได้ 2 รสชาติ จาก10 รสชาติในหนึ่งตัว การจัดโปรโมชั่นเป็นเซทอาหารทานแบบครอบครัว นอกจากนี้ช่องทางออนไลน์ของร้านก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้ออาหาร ดังนั้นร้านจึงให้ความสำคัญกับรูปเมนูอาหารและการตั้งชื่อเมนูที่แปลกใหม่ 

2) พาตัวเองให้อยู่ใกล้ลูกค้า การส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่สิ่งสำคัญคือการต้องอยู่ใกล้ลูกค้า เพราะมีค่าจัดส่งตามระยะทาง จึงทำให้ธุรกิจเน้นการลงทุนทำแบบ Lottovip Cloud Kitchen ซึ่งมีต้นทุนน้อย เพื่อทำให้จุดจัดส่งอาหารของร้านมีระยะทางใกล้กับลูกค้ามากขึ้น ส่งผลให้ค่าจัดส่งสินค้ามีราคาถูกซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจสั่งอาหารง่ายขึ้น โดยการมีเดลิเวอรี่เป็นของตัวเองนั้นทำให้ร้านควบคุมการจัดส่งและแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างทันท่วงที หรือเข้าร่วมแพลตฟอร์ม โรบินฮู้ด ฟู้ดเดลิเวอรี่ ที่ไม่เรียกเก็บค่า GP ก็ช่วยให้ร้านมีรายรับอย่างเป็นธรรม 

3) สร้างแบรนด์ให้ดังด้วยพลังคำพูด หรือการบอกปากต่อปาก มีพลังต่อการขายสินค้าอย่างมากเพราะมีความน่าเชื่อถือและเกิดจากประสบการณ์ของลูกค้าตัวจริง ซึ่งพลังปากต่อปากจะเกิดขึ้นได้เมื่อร้านอาหารสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า จนนำไปสู่การแชร์ความรู้สึกดี เราจึงต้องคิดอยู่เสมอว่าจะทำอย่างไรให้อาหารยังดูน่ารับประทานเมื่อถึงมือลูกค้าและกระตุ้นให้ลูกค้าถ่ายภาพลงโซเชียลมีเดียบอกต่อประสบการณ์ที่ดีกับคนรู้จักต่อไป


การปรับตัวและลองทำสิ่งใหม่ๆ อาจจะยากและไม่สำเร็จในครั้งแรก แต่การล้มแล้วลุกคือการเรียนรู้ที่มีคุณค่าให้ธุรกิจร้านอาหารนำไปพัฒนาตัวเองและส่งผลให้ธุรกิจของเราอยู่รอดในวิกฤตครั้งนี้และก้าวไปข้างหน้าได้มั่นคงขึ้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถติดตามข้อมูลเคล็ดลับธุรกิจ และกิจกรรมงานสัมมนาที่จะเป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจจากธนาคารไทยพาณิชย์และพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้ตลอดทั้งปี ผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.scbsme.scb.co.th Facebook: www.facebook.com/groups/scbsme/ หรือ
ติดต่อสอบถามข้อมูลธุรกิจได้ทาง SCB SME Business Call Center โทร.02 7222222... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/news/257557/
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF