$$วิชาความรู้สีกันไฟ สีทนไฟ สีกันไฟโครงสร้างเหล็ก firekote s99 สีกันไฟ unique / สีทนไฟ
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 13 พฤษภาคม 2024 เวลา 06:12:50 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: 1. อย่าเน้นข้อความด้วยอักษร หรือ เครื่องหมายพิเศษ เช่น +++, !!!,***, ((ขายด่วน)) ฯลฯ
2. อย่าเว้นวรรคตัวอักษรเพื่อเรียกร้องความสนใจ เช่น ข า ย สิ น ค้า ด่ ว น แ ล้ ว วั น นี้ ฯลฯ
3. อย่าโฆษณา Website หรือมี url ที่หัวข้อโฆษณา และในรายละเอียดรวมทั้งลายเซ็น
(มิเช่นนั้นประกาศของท่านจะเข้าข่ายผิดกฏ และ อาจถูกลบโดยมิได้แจ้งล่วงหน้า)
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: $$วิชาความรู้สีกันไฟ สีทนไฟ สีกันไฟโครงสร้างเหล็ก firekote s99 สีกันไฟ unique / สีทนไฟ  (อ่าน 104 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Jenny937
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11881


« เมื่อ: วันที่ 22 พฤศจิกายน 2022 เวลา 16:12:18 »


     สีกันไฟโครงสร้างเหล็กสีกันไฟ สีทนไฟ สีกันไฟโครงสร้างเหล็ก firekote s99 สีกันไฟ unique หรือ สีทนความร้อน ตามมาตรฐาน ไอเอสโอ 834 (ISO 834) และ เอเอสหน เอ็ม อี 119 (ASTM E 119) ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 48 และ 60



ดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์ สีกันไฟ https://tdonepro.com

     ธรรมชาติของไฟ สามารถกำเนิดได้ทุกที่ เริ่มจากเปลวไฟขนาดเล็กเปลี่ยนเป็นเปลวเพลิงขนาดใหญ่ได้ภายในช่วงเวลาไม่กี่วินาที เปลวเพลิงขนาดเล็กดับง่าย แม้กระนั้นเปลวไฟขนาดใหญ่ดับยาก พวกเราก็เลยจะต้องจำกัดขนาดของเปลวไฟและการขยายของเปลวเพลิง ก็เลยจำต้องมีสีกันไฟ สีทนไฟ สีกันไฟโครงสร้างเหล็ก firekote s99 สีกันไฟ uniqueเพื่อจะช่วยยืดระยะเวลาหรือชะลอการขยายของเปลวไฟ ทำให้มีช่วงเวลาสำหรับเพื่อการเข้าช่วยเหลือหรือช่วงเวลาสำหรับเพื่อการหนีเยอะขึ้นเรื่อยๆ ช่วยขยายเวลาเพื่อลดการสูญเสียของทรัพย์สินรวมทั้งชีวิต เมื่อไฟไหม้เกิดขึ้นโดยมากเกิดกับส่วนประกอบอาคาร สำนักงาน โรงงาน คลังสำหรับเก็บสินค้า รวมทั้งที่อยู่ที่อาศัย ซึ่งอาคารเหล่านั้นล้วนแต่มีองค์ประกอบเป็นหลัก

     องค์ประกอบอาคารโดยมาก แบ่งได้ 3 ชนิด คือ

     1. ส่วนประกอบคอนกรีต
     2. โครงสร้างเหล็ก
     3. องค์ประกอบไม้

     ปัจจุบันนิยมสร้างตึกด้วยโครงสร้างเหล็ก ซึ่งก่อสร้างง่าย เร็วทันใจ ส่วนอายุการใช้งาน จำเป็นต้องมองตามสภาพแวดล้อม และก็การดูแลและรักษา เมื่อกำเนิดอัคคีภัยแล้ว ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต / ทรัพย์สิน ผลกระทบคือ เกิดการเสียสภาพใช้งานของอาคาร ช่องทางที่จะนำอาคารที่ผ่านการเกิดไฟไหม้แล้วมาใช้งานต่อบางทีอาจมีโอกาสเสี่ยงต่อการชำรุดทลาย จำเป็นต้องตีทิ้งแล้วสร้างขึ้นมาใหม่ วัสดุทุกชนิดชำรุดเสียหายเมื่อได้รับความร้อนมีการเสียแรง (Strength) เสียความแข็งแรง (Stiffness) กำเนิดแรงอัดจากการยึดรั้ง มีการโก่งจากการยึดรั้ง ความโค้งงอของตัวอาคารที่มากขึ้นจาก Thermal gradient ตลอดความลึก เสียความคงทนถาวร (Durability)

     ด้วยเหตุนี้ เมื่อเกิดอัคคีภัยสาเหตุจากความร้อน จะมีความร้ายแรงได้หลายระดับ ถ้าเกิดการได้รับความย่ำแย่นั้นประทุษร้ายตรงจุดการบรรลัยที่รุนแรง รวมทั้งตรงจำพวกของอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับก่อสร้าง ตัวอย่างเช่น

     ส่วนประกอบที่เป็นเหล็กมีอุณหภูมิวิกฤติ จากความร้อนเท่ากับ 550 องศาเซลเซียส และเกิดการ ผิดรูปไป 60 % สาเหตุจากความร้อน และก็หลังจากนั้นจึงค่อยๆอ่อนแล้วพังลงอย่างช้าๆอุณหภูมิเปลวไฟที่ราวๆ 1,200 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ โดยประมาณ 650 องศาเซลเซียส ก็เพียงพอที่จะทำให้องค์ประกอบที่เป็นเหล็กนั้นเสียหายได้

     ส่วนโครงสร้างคอนกรีต ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่นิยมใช้ก่อสร้างบ้าน สำนักงาน ตึกสำนักงาน ต่างๆคอนกรีตเมื่อได้รับความร้อนมากยิ่งกว่า 300 องศาเซลเซียสขึ้นไป + ช่วงเวลา ก็จะทำให้คุณสมบัติของคอนกรีตเปลี่ยนไป ดังเช่น มีการเสื่อมสภาพของ Hydratedparts (เนื้อคอนกรีตเสียภาวะการยึดเกาะรวมทั้งอ่อนแอ) มีการหมดสภาพของมวลรวม เกิดความเค้นเป็นจุด เกิดการบาดหมางขนาดเล็ก แต่ว่าความย่ำแย่ที่เกิดกับส่วนประกอบตึกที่เป็นคอนกรีต จะเกิดความทรุดโทรม หรือพังทลาย อย่างทันควันฯลฯ

     เมื่อนักผจญเพลิงทำการเข้าดับเพลิงต้องพินิจ จุดต้นเหตุของไฟ รูปแบบตึก จำพวกอาคาร ช่วงเวลาของการลุกไหม้ ประกอบการใคร่ครวญตกลงใจ โดยจะต้องพึ่งคนึงถึงความร้ายแรงตามกลไกการวอดวาย อาคารที่สร้างขึ้นมาต้องผ่านกฎหมายควบคุมอาคาร เพื่อควบคุมประเภท ลักษณะ จุดมุ่งหมายการใช้แรงงาน ให้ถูกตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ของข้อบังคับควบคุมตึกแล้วก็เขตพื้นที่ควบคุมใช้บังคับเฉพาะพื้นที่ที่มีความรุ่งเรืองรวมทั้งมีการก่อสร้างอาคารแน่นหนา ซึ่งในท้องที่ใดจะประกาศให้เป็นเขตควบคุมอาคารจึงควรยี่ห้อเป็นพระราชกฤษฎีกา ซึ่งกฎหมายควบคุมอาคารจะดูแลในเรื่องความยั่งยืนและมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัยรวมทั้งการคุ้มครองป้องกันไฟไหม้ของตึกโดยยิ่งไปกว่านั้นอาคารสูง อาคารขนาดใหญ่ และก็ตึกสาธารณะมาตรฐานกำหนดไว้ดังนี้

     ตึกชั้นเดียว อัตราการทนความร้อนไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง

     ตึกหลายชั้น อัตราการทนความร้อนไม่น้อยกว่า 1 ½ ชม.

     ตึกขนาดใหญ่ อัตราการทนไฟไม่น้อยกว่า 2 ชม.

     อาคารสูง อัตราการทนไฟไม่น้อยกว่า 2 ชม. (above gr.) แล้วก็ 4 ชม. (under gr.)

     ส่วนส่วนประกอบที่เป็นองค์ประกอบขององค์ประกอบหลักของอาคาร ก็ได้กำหนอัตราการทนไฟไว้ด้วยเหมือนกัน หากแบ่งอัตราการทนไฟ แต่ละส่วนประกอบตึก ข้อบังคับกำหนดไว้ ดังนี้

     อัตราการทนความร้อนขององค์ประกอบอาคาร

     เสาที่มีความสำคัญต่ออาคาร 4ชั่วโมง

     พื้น 2-3 ชั่วโมง

     ระบบโครงข้อแข็ง (รวมทั้งเสา / กำแพงข้างใน) 3-4 ชั่วโมง

     ส่วนประกอบหลัก Shaft 2 ชั่วโมง

     หลังคา 1-2 ชม.

     จะมองเห็นได้ว่า ไฟไหม้ เมื่อเกิดกับอาคารแล้ว ช่วงเวลาของการลุกไหม้ มีส่วนสำคัญอย่างมาก ต่อองค์ประกอบอาคาร จะมองเห็นได้จาก เมื่อนักผจญเพลิง จะเข้ากระทำการดับเพลิงข้างในตึก จะมีการคำนวณระยะเวลา อย่างคร่าวๆตาม Fire man ruleหมายถึงโครงสร้างเหล็กที่สำคัญต่อโครงสร้างอาคาร ครึ้มน้อยสุดกี่มิลลิเมตร คูณ กับ 0.8 พอๆกับ เวลาที่มีการย่อยยับ ตามสูตรนี้ 0.8*ความหนา (mm) = นาที

     ** ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ การวัดแบบอย่างโครงสร้างตึก ระยะเวลา และก็สาเหตุอื่นๆเพื่อการกระทำการดับไฟนั้น ไม่เป็นอันตราย ก็จะต้องพิจารณาถึงน้ำหนักของตึกที่เพิ่มขึ้นจากน้ำที่ได้จากการดับไฟ ด้วย ซึ่งยิ่งทำให้โครงสร้างตึกนั้นพังทลายเร็วขึ้น **

     ระบบการคุ้มครองและก็หยุดอัคคีภัยในตึกทั่วไป

     ตึกทั่วไปรวมถึงตึกที่ใช้สำหรับในการรวมกันคน ยกตัวอย่างเช่น ห้องประชุม โรงแรม โรงพยาบาล สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า ตึกแถว ห้องแถว บ้าคู่แฝด ตึกที่พักอาศัยรวมหรืออพาร์ตเมนต์ที่มากกว่า 4 ยูนิตขึ้นไป ก็จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยจากอัคคีภัยเช่นเดียวกันของที่จำเป็นจำต้องทราบแล้วก็เข้าใจเกี่ยวกับระบบการปกป้องคุ้มครองแล้วก็ยับยั้งไฟไหม้ในตึกทั่วๆไป คือ

     1. ระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้ควรจะจัดตั้งใน

– เรือนแถวหรือห้องแถวที่สูงไม่เกิน 2 ชั้น จะต้องติดตั้ง 1 เครื่องต่อ 1 ยูนิต แต่ถ้าหาก สูงตั้งแต่ 3 ชั้นขึ้นไป ต้องติดตั้งทุกชั้นในแต่ละยูนิต

– อาคารสาธารณะที่มีพื้นที่มากยิ่งกว่า 2,000 ตารางเมตร จำต้องจัดตั้งในทุกชั้น ของตึก

     2. ส่วนประกอบของระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้

     ระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้ประกอบด้วยวัสดุอุปกรณ์ 2 ตัวเป็นDetector ซึ่งมี ทั้งแบบระบบบอกเหตุอัตโนมัติแล้วก็ระบบบอกเหตุที่ใช้มือ เพื่อให้กริ่งสัญญาณเตือนไฟไหม้ดำเนินงาน ส่วนอุปกรณ์อีกตัวหนึ่งคือ เครื่องส่งสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ที่สามารถแผดเสียงหรือสัญญาณให้คนที่อยู่ในอาคารได้ยินเมื่อกำเนิดไฟไหม้

     3. การตำหนิดตั้งถังดับเพลิงแบบมือถือ

     เรือนแถวหรือห้องแถวที่สูงไม่เกิน 2 ชั้น จำเป็นต้องติดตั้ง 1 เครื่องต่อ 1 ยูนิต ส่วน อาคารสาธารณะอื่นๆต้องจัดตั้งขั้นต่ำ 1 เครื่องทุกๆ1,000 ตารางเมตร ซึ่งแต่ละเครื่องจะต้องจัดตั้งห่างกันอย่างน้อย 45 เมตร รวมทั้งจะต้องอยู่ในตำแหน่งที่เห็นง่ายสะดวกต่อการดูแลรักษา

     4. ป้ายบอกชั้นและก็บันไดหนีไฟ

     ป้ายบอกตำแหน่งชั้นและก็ทางหนีไฟพร้อมไฟเร่งด่วน จำต้องจัดตั้งทุกชั้นของตึกโดยยิ่งไปกว่านั้นอาคารสาธารณะที่มีความสูงตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไป ตึกพักอาศัยรวมที่มีความสูงตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไปรวมทั้งอาคารอื่นๆที่มีพื้นที่มากกว่า 2,000 ตารางเมตร

     5. ระบบจ่ายพลังงานไฟฟ้าสำรอง

     อาคารสาธารณะที่มีคนอาศัยอยู่จำนวนมาก จำเป็นอย่างยิ่งที่จะควรมีระบบกระแสไฟฟ้าสำรอง เช่น แบตเตอรี่ หรืออุปกรณ์สำหรับกำเนิดไฟฟ้าไว้สำหรับกรณีรีบด่วนที่ระบบกระแสไฟฟ้าธรรมดาขัดข้องและต้องสามารถจ่ายไฟฟ้าในกรณีฉุกเฉินได้ไม่น้อยกว่า 2ชั่วโมง โดยยิ่งไปกว่านั้นจุดที่มีสัญลักษณ์ทางออกฉุกเฉิน ทางหนีไฟ ฟุตบาทและก็ระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้

     วิธีประพฤติตนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยเมื่อเกิดเพลิงไหม้ 10 ขั้นตอน สีกันไฟ สีทนไฟ สีกันไฟโครงสร้างเหล็ก firekote s99 สีกันไฟ unique

     ควันไฟจากเหตุเพลิงไหม้สามารถคร่าชีวิตคุณได้ ภายในเวลา 1 วินาทีเพราะว่าควันสามารถลอยสูงขึ้นไปได้ถึง 3 เมตร และด้านใน 1 นาที ควันสามารถลอยขึ้นไปได้สูงเท่ากับอาคาร 60 ชั้น ด้วยเหตุนี้ ทันทีที่กำเนิดเพลิงไหม้ควันไฟจะปกคลุมอยู่รอบๆตัวคุณอย่างเร็ว ทำให้ท่านสำลักควันตายก่อนที่เปลวเพลิงจะคืบคลานมาถึงตัว เราจะต้องศึกษากรรมวิธีทำตัวเมื่อเกิดไฟไหม้ 10 ขั้นตอน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและเงินทองของตัวคุณเองความปลอดภัยในตึกนั้นจำต้องเริ่มเล่าเรียนกันตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินทางเข้าไปในอาคาร โดยเริ่มจาก

     ขั้นตอนที่ 1 ก่อนเข้าพักในอาคารควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าตำแหน่งทางหนีไฟ ทางหนีไฟ ทางออกจากตัวอาคาร การติดตั้งอุปกรณ์ระบบ Sprinkle และเครื่องมืออื่นๆแล้วก็จำต้องอ่านข้อเสนอเกี่ยวกับความปลอดภัยจากเพลิงไหม้ และการหนีไฟให้รอบคอบ

     ขั้นตอนที่ 2 ขณะอยู่ในอาคารควรจะหาทางออกรีบด่วนสองทางที่ใกล้ห้องเช่าพิจารณาดูว่าทางออกฉุกเฉินไม่ปิดล็อคตาย หรือมีเครื่องกีดขวางแล้วก็สามารถใช้เป็นเส้นทางออกจากด้านในตึกได้อย่างปลอดภัย ให้นับจำนวนประตูห้องโดยเริ่มจากห้องท่านสู่ทางหนีฉุกเฉินทั้งคู่ทาง เพื่อไปถึงทางหนีเร่งด่วนได้ ถึงไฟจะดับหรือปกคลุมไปด้วยควัน

     ขั้นตอนที่ 3 ก่อนนอนวางกุญแจหอพักและก็ไฟฉายไว้ใกล้กับเตียงนอนถ้าหากเกิดไฟไหม้จะได้นำกุญแจห้องรวมทั้งไฟฉายไปด้วย อย่ามัวเสียเวลากับการเก็บข้าวของ รวมทั้งควรทำความเข้าใจแล้วก็ฝึกฝนเดินด้านในห้องเช่าในความมืดดำ

     ขั้นตอนที่ 4 เมื่อจะต้องเจอเหตุอัคคีภัยหาตำแหน่งสัญญาณเตือนไฟไหม้ เปิดสัญญาณเตือนไฟไหม้ ต่อจากนั้นหนีจากอาคารแล้วโทรศัพท์เรียกหน่วยดับไฟทันที

     ขั้นตอนที่ 5 เมื่อได้ยินสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ให้รีบหาทางหนีออกมาจากอาคารในทันที

     ขั้นตอนที่ 6 หากเพลิงไหม้ในห้องพักให้หนีออกมาแล้วปิดประตูห้องในทันที รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดูแลอาคาร เพื่อโทรศัพท์แจ้งหน่วยดับไฟ

     ขั้นตอนที่ 7 ถ้าไฟไหม้เกิดขึ้นนอกหอพักก่อนจะหนีออกมาให้วางมือบนประตู ถ้าประตูมีความเย็นอยู่ค่อยๆเปิดประตูแล้วหนีไปยังบันไดหนีไฟฉุกเฉินที่ใกล้ที่สุด

     ขั้นตอนที่ 8 ถ้าหากเพลิงไหม้อยู่บริเวณใกล้ๆประตูจะมีความร้อน ห้ามเปิดประตูเด็ดขาด ให้รีบโทรศัพท์เรียกหน่วยดับไฟ และบอกกล่าวว่าท่านอยู่ที่ใดของเพลิงไหม้ หาผ้าที่เอาไว้เช็ดตัวแฉะๆปิดทางเข้าของควัน ปิดพัดลม รวมทั้งแอร์ส่งสัญญาณอ้อนวอนที่หน้าต่าง

     ขั้นตอนที่ 9 เมื่อจะต้องพบเจอกับควันไฟที่ปกคลุมให้ใช้วิธีคลานหนีไปทางเร่งด่วนเพราะอากาศบริสุทธิ์จะอยู่ข้างล่าง (เหนือพื้นห้อง) นำกุญแจห้องไปด้วยถ้าจนมุมหนีจะได้สามารถกลับเข้าห้องได้

     ขั้นตอนที่ 10 การหนีออกจากตัวอาคาร อย่าใช้ลิฟท์ขณะกำเนิดเพลิงไหม้และไม่ควรที่จะใช้บันไดข้างในตึกหรือบันไดเลื่อน เนื่องด้วยบันไดกลุ่มนี้ไม่สามารถคุ้มครองปกป้องควันไฟรวมทั้งเปลวได้ ให้ใช้บันไดหนีไฟด้านในอาคารเพียงแค่นั้นเพราะว่าเราไม่มีทางรู้ว่าเรื่องราวเลวร้ายจะเกิดขึ้นกับชีวิตเมื่อไร พวกเราจึงไม่สมควรประมาทกับชีวิตเลยสักวินาทีเดียว

     * อ้างอิงจาก ศูนย์วิจัยแล้วก็พัฒนาการปกป้องการเกิดภัย



ขอขอบคุณบทความ บทความ firekote s99 https://tdonepro.com
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF