บลจ. อเบอร์ดีน ชู 6 ธีม 'หุ้นเอเชีย' ลงทุนระยะยาวรับกำไรโตเด่น
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 22 พฤษภาคม 2024 เวลา 15:04:00 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: ห้ามโพสปั่นลิงก์ SEO ในส่วนของ ลายเซ็นสมาชิกเพื่อจะแสดงที่ด้านล่าง ของแต่ละข้อความที่ตอบกระทู้ เช่น คาสิโน บาคาร่า แทงบอล ฯลฯ เด็ดขาด
หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บลจ. อเบอร์ดีน ชู 6 ธีม 'หุ้นเอเชีย' ลงทุนระยะยาวรับกำไรโตเด่น  (อ่าน 96 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Prichas
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12856


« เมื่อ: วันที่ 24 สิงหาคม 2021 เวลา 16:38:53 »




นางสาวพฤกษา เอี่ยมธงทอง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการลงทุน ตลาดหุ้นเอเชีย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด อินเวสเม้นท์ เปิดเผยว่า แม้แนวโน้มครึ่งปีหลัง 2564 ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวลงจากครึ่งปีแรก2564  สาเหตุจากเฟดเริ่มส่งสัญญาณลดคิวอีภายในปีนี้ และแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ เดลตา ที่สร้างความกังวลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไปทั่วเอเชีย 

รวมถึงการปรับตัวลงของตลาดหุ้นจีน โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มร้านขายออนไลน์และร้านยา ยังคงได้รับแรงกดดันจากรัฐบาลจีนคุมเข้ม  โดยบลจ. อเบอร์ดีน คาดการณ์กำไรบนดัชนี MSCI AC Asia ex Japan (ดัชนีอ้างอิง) ปี 2564 จะปรับตัวลงจากตลาดคาดการณ์ ณ ครึ่งปีแรก2564 คาดจะเติบโต 33% ในปีนี้  

 
ทั้งนี้แม้จะปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว แต่บริษัทยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนหุ้นเอเชียในระยะยาว 3 ปีขึ้นไป เชื่อมั่นว่าภูมิภาคเอเชียในปี2565 เมื่อมีวัคซีนเข้ามาเพียงพอ ซึ่งจะทำให้ตลาดเกิดใหม่ในเอเชียรวมถึงไทยสามารถกลับมาเริ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจและลดช่องว่างกับประเทศที่พัฒนาแล้วให้แคบลงได้


ขณะเดียวกันราคาหุ้นเอเชีย ค่าเฉลี่ย 12 month Forward P/E อยู่ที่15.9 เท่า ยังถูกกว่าเมื่อเทียบตลาดหุ้นสหรัฐที่ 20.3 เท่า  โดยการลงทุนระยะยาว นับว่าเป็นโอกาสเข้าลงทุนรับผลตอบแทนที่ดีเมื่อตลาดฟื้นตัว ผ่าน 6 ธีมลงทุนหุ้นเอเชียแห่งอนาคต คือ กลุ่มบริโภคที่เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ เช่น ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม การศึกษา บริการทางการเงิน ,ธุรกิจก่อสร้างที่เติบโตตามความต้องการใช้โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ,ธุรกิจสุขภาพ,หุ้นอนาคตดิจิทัล ,ธุรกิจขับเคลื่อนเทคโนโลยี เช่น 5G บิ๊กดาต้า และพลังงานทดแทน  โดยเลือกลงทุนบริษัทที่มีสถานะเงินสดที่ดีและมีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ระดับสูง รับมือกับความไม่แน่นอนระยะสั้นได้ดีที่สุด 

นางสาวพฤกษา กล่าวว่า  บริษัทในฐานะนักลงทุนระยะยาว ยังคงกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นเอเชีย โดยบริษัทยังคงให้ความสนใจกับบริษัทที่มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง ซึ่งสะท้อนแนวโน้มการได้ประโยชน์จากการเติบโตเชิงโครงสร้าง ทำให้ปัจจุบันผลการดำเนินงานกองทุนหุ้นเอเชียของบริษัท สามารถมีผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาด แม้ปัจจุบันตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง4.5%ก็ตาม

พร้อมกันนี้แนะนำนักลงทุนไทยว่า สามารถแบ่งกำไรจากการลงทุนหุ้นยุโรปและสหรัฐที่ราคาปรับตัวขึ้นมา โยกมาลงทุนหุ้นเอเชียสัดส่วน20-30 %ของพอร์ต รับผลตอบแทนที่ดี 3 ปีขึ้นไป จากการกระจายลงทุนหุ้นทั่วเอเชีย เช่น จีน อินเดีย ไต้หวัน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย เป็นต้น 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF