ดาวโจนส์พุ่งกว่า 400 จุด ขานรับผลประกอบการ
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 20 พฤษภาคม 2024 เวลา 13:17:39 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: ต้องขออภัย!!! เนื่องจากตอนนี้เว็บไซต์กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา หากมีความผิดพลาดในเว็บประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ และจะเป็นการขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง หากท่านนำความผิดพลาดนั้นมาแจ้งให้กับผู้ดูแลฯ แล้วทางเราจะรีบเข้าไปแก้ไขในความผิดพลาดนั้นๆให้เร็วที่สุด
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ดาวโจนส์พุ่งกว่า 400 จุด ขานรับผลประกอบการ  (อ่าน 67 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Shopd2
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10785


« เมื่อ: วันที่ 28 มกราคม 2022 เวลา 21:43:06 »


ดาวโจนส์พุ่งกว่า 400 จุด ขานรับผลประกอบการ "ไมโครซอฟท์"

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 400 จุดในวันนี้ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของไมโครซอฟท์

ณ เวลา 21.56 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,746.05 จุด บวก 448.32 จุด หรือ 1.31%

ราคาหุ้นไมโครซอฟท์พุ่งขึ้นกว่า 4% ในการซื้อขายวันนี้ หลังการเปิดเผยผลประกอบการสูงกว่าที่คาดไว้

ส่วนราคาหุ้นอินเทลดีดตัวกว่า 2% ขานรับชัยชนะครั้งใหญ่ หลังจากต่อสู้ยาวนานถึง 12 ปี โดยศาลยุโรปประกาศให้คำตัดสินของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ที่สั่งปรับอินเทลก่อนหน้านี้ถือเป็นโมฆะ

ทั้งนี้ EC ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) สั่งปรับอินเทลเป็นเงินจำนวน 1.06 พันล้านยูโร (1.2 พันล้านดอลลาร์) หรือเกือบ 40,000 ล้านบาทในปี 2552 โดยระบุว่าอินเทลขัดขวางการแข่งขันในตลาดไมโครชิป ด้วยการกดดันให้บริษัทเอเอ็มดี ซึ่งเป็นคู่แข่ง ต้องออกจากตลาด

ราคาหุ้นโบอิ้งดิ่งลงกว่า 2% หลังเปิดเผยตัวเลขขาดทุนมากกว่าคาดในไตรมาส 4/64 โดยได้รับผลกระทบจากการรับรู้ค่าใช้จ่ายก่อนหักภาษีวงเงิน 3.5 พันล้านดอลลาร์ของเครื่องบินรุ่น 787 Dreamliners ขณะที่ปัญหาด้านการผลิตทำให้บริษัทต้องชะลอการส่งมอบเครื่องบินรุ่นดังกล่าว

นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทเทสลาและอินเทล ซึ่งจะมีการแถลงหลังปิดตลาดวันนี้

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยผลการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.00-0.25% แต่โฟกัสสำคัญจะอยู่ที่การแถลงข่าวหลังการประชุมของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งตลาดจะจับตาการส่งสัญญาณทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่เฟดยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) พร้อมกับคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีนี้

ทางด้านโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 4 ครั้งในปีนี้ และจะเริ่มปรับลดขนาดงบดุลในเดือนก.ค.หรือเร็วกว่านั้น จากปัจจุบันที่พุ่งสูงเกือบ 9 ล้านล้านดอลลาร์
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF