“พาณิชย์” ชี้ช่องส่งออกสินค้าอาหาร เครื่องดื่มเจาะตลาดสาธารณรัฐเช็ก
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 13 พฤษภาคม 2024 เวลา 13:11:18 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: ท่านที่มีกระทู้เยอะ เวลาอัพยกแผงทำให้กระทู้ท่านอื่นตกเร็วมากต่อไปให้อัพ ไม่เกินชั่วโมงละ 2ครั้ง/2กระทู้ นะครับ ชม.ถัดไปถึงอัพใด้อีก 2ครั้ง/2กระทู้
หากต้องการอัพแบบไม่จำกัด
คลิกที่นี่
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: “พาณิชย์” ชี้ช่องส่งออกสินค้าอาหาร เครื่องดื่มเจาะตลาดสาธารณรัฐเช็ก  (อ่าน 171 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Jenny937
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11881


« เมื่อ: วันที่ 15 กันยายน 2021 เวลา 18:15:03 »




น.ส.วิภาวี วรรณพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก เปิดเผยว่า สำนักงานฯ ได้ติดตามโอกาสทางการค้าของไทยตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยล่าสุดได้ทำการติดตามผลการสำรวจสถานการณ์การใช้จ่ายเพื่อการบริโภคในครัวเรือนในสาธารณรัฐเช็ก พบว่ามีแนวโน้มปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในปี 2563 หลังจากที่ซื้อหวยออนไลน์เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2543 เพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคชะลอการบริโภคสินค้าที่ไม่จำเป็น และหันมาบริโภคสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้น

สำหรับค่าใช้จ่ายที่ลดลง ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเสื้อผ้าและรองเท้า ลดลงเกือบ 9% เพราะโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถออกไปรับประทานอาหารที่ร้านได้ รวมถึงไม่สามารถเข้าพักโรงแรมหรือเกสต์เฮาส์ได้ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้าพักลดลง 21% และค่าใช้จ่ายด้านวัฒนธรรมและสันทนาการก็ลดลง 12% ส่วนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ได้แก่ ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น 5% แอลกอฮอล์และบุหรี่เพิ่มขึ้น 7% ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น 9% ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์

น.ส.วิภาวีกล่าวว่า จากผลการสำรวจดังกล่าว พบว่าการจับจ่ายใช้สอยของภาคครัวเรือนในสาธารณรัฐเช็กนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีแนวโน้มลดลง ผู้บริโภคเริ่มออมเงินมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสินค้า Non-Food เช่น เสื้อผ้า รองเท้า แต่ทิศทางการใช้จ่ายสำหรับบางกลุ่มสินค้ากลับเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ อาหาร และค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านวัฒนธรรมและสันทนาการลดลงในทุกครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นครัวเรือนที่มีบุตร หรือไม่มีบุตร รวมถึงกลุ่มผู้รับบำนาญ

“แนวโน้มการจับจ่ายของผู้บริโภคในตลาดเช็กดังกล่าวทำให้เห็นโอกาสทางการตลาดสำหรับสินค้าอาหาร และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาสุขภาพของไทย ผู้ผลิตและผู้ประกอบการสินค้าอาหารและสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพควรศึกษาข้อมูลความต้องการของผู้บริโภค และพัฒนาสินค้าให้เหมาะต่อกลุ่มเป้าหมาย โดยอาจพิจารณาเลือกกลุ่มเป้าหมายหลัก 2-3 กลุ่ม แยกตามอายุ หรือไลฟ์สไตล์ แล้วผลิตสินค้าตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายเหล่านั้น และใช้ช่องทางการตลาดออนไลน์นำเสนอสินค้าเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้กว้างขวางมากขึ้น ที่สำคัญคือ การผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และสร้างความโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์และคุณลักษณะพิเศษ จะช่วยขยายโอกาสทางการตลาดได้อย่างต่อเนื่อง” น.ส.วิภาวีกล่าว
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF