BAY คาดกรอบบาทสัปดาห์นี้ 32.30-33.00 รอรายงานประชุมเฟด
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 15 พฤษภาคม 2024 เวลา 14:25:41 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: 1. อย่าเน้นข้อความด้วยอักษร หรือ เครื่องหมายพิเศษ เช่น +++, !!!,***, ((ขายด่วน)) ฯลฯ
2. อย่าเว้นวรรคตัวอักษรเพื่อเรียกร้องความสนใจ เช่น ข า ย สิ น ค้า ด่ ว น แ ล้ ว วั น นี้ ฯลฯ
3. อย่าโฆษณา Website หรือมี url ที่หัวข้อโฆษณา และในรายละเอียดรวมทั้งลายเซ็น
(มิเช่นนั้นประกาศของท่านจะเข้าข่ายผิดกฏ และ อาจถูกลบโดยมิได้แจ้งล่วงหน้า)
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: BAY คาดกรอบบาทสัปดาห์นี้ 32.30-33.00 รอรายงานประชุมเฟด  (อ่าน 81 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Jessicas
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14240


« เมื่อ: วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2022 เวลา 05:32:18 »


BAY คาดกรอบบาทสัปดาห์นี้ 32.30-33.00 รอรายงานประชุมเฟด-สถานการณ์ยูเครน

กลุ่มงานโกล.มาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทว่า ในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.30 - 33.00 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 32.70 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 32.58 - 33.10 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.50% ตามการคาดการณ์ของตลาด

เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินยูโรและเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังสหรัฐฯ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สูงเกินคาดที่ 7.5% ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 6.0% เมื่อเทียบรายปี ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์มากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50bp ในเดือนมีนาคมนี้

อนึ่ง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวผันผวนรุนแรง โดยประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ให้ความเห็นว่าตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุด ทำให้เฟดต้องดำเนินนโยบายอย่างแข็งกร้าว โดยเขาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 100bp ภายในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้

อย่างไรก็ดี กระแสข่าวจากสหรัฐฯ ที่ว่ารัสเซียเตรียมบุกยูเครน ส่งผลให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยง และบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ย่อตัวลงท้ายสัปดาห์ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้น และพันธบัตรไทยสูงถึง 42,054 ล้านบาท และ 48,446 ล้านบาท ตามลำดับ

กลุ่มงานโกล.มาร์เก็ตส์ฯ มองว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจกับข้อมูลยอดค้าปลีกสหรัฐฯ และรายงานประชุมเฟดเมื่อวันที่ 25-26 มกราคม เพื่อประเมินความเร็วและความเข้มข้นของการคุมเข้มนโยบายการเงิน นอกจากนี้ ตลาดจะติดตามราคาน้ำมันดิบท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน และความเสี่ยงต่อการเกิดสงครามระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตก ซึ่งอาจเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจากต้นทุนพลังงานอีกทางหนึ่ง

สำหรับปัจจัยในประเทศ กนง. มีมติด้วยเสียงเอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ยนโยบาย โดยประเมินเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากการส่งออกและจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น หลังมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางเร็วกว่าคาด ความเสี่ยงด้านต่ำต่อเศรษฐกิจโดยรวมลดลง แต่การฟื้นตัวยังเปราะบาง และแตกต่างกันในแต่ละภาคเศรษฐกิจ ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2565 อาจสูงกว่ากรอบเป้าหมายในช่วงแรกของปี แต่เฉลี่ยทั้งปีจะยังต่ำกว่า 3%

การเน้นย้ำว่า กนง.ยังให้น้ำหนักกับการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นสำคัญ สอดคล้องกับมุมมองของกรุงศรีที่ว่า ทางการมีแนวโน้มตรึงดอกเบี้ยไว้ตลอดทั้งปีนี้ ขณะที่เรามองว่ากระแสเงินทุนไหลเข้ามาพักในสินทรัพย์สกุลเงินบาท จะยังคงหนุนค่าเงินบาทในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม อัตราแลกเปลี่ยนจะเคลื่อนไหวผันผวนสูง ตามหลากหลายปัจจัยเสี่ยง

 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF