ดาวโจนส์พุ่งกว่า 194 จุด แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน - แบงก์
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 17 พฤษภาคม 2024 เวลา 02:51:28 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เตือนเพื่อนสมาชิก ระวัง นาย ธนันท์ วงค์วัฒนามงคล หลอกลวงสมาชิกที่ลงหาของในเวปโดยอ้างว่ามีสินค้าขายในราคาถูกและให้โอนเงินแต่ไม่ส่งสินค้าให้ โดยขณะนี้มีผู้ถูกหลอกหลายราย เบอร์โทรที่ใช้ 088-9526897 บัญชี ธ.ทหารไทย 2152261794/ ธ.กสิกรไทย 8530024230
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ดาวโจนส์พุ่งกว่า 194 จุด แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน - แบงก์  (อ่าน 112 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Jessicas
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14240


« เมื่อ: วันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 เวลา 19:08:58 »




ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร (23พ.ย.) เพิ่มขึ้น 194.55 จุด แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันกลับมาปรับขึ้นอีกครั้ง รวมไปถึงแรงซื้อจากหุ้นในกลุ่มแบงก์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 194.55 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 35,813.80 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 7.76 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 4,690.70 จุด และดัชนีแนสแด็กปรับตัว ลง 79.62 จุด หรือ 0.50% ปิดที่ 15,775.14 จุด

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวานนี้ (23 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมัน WTI ทะยานขึ้นกว่า 2% ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อย่างไรก็ดี การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้สร้างแรงกดดันต่อกลุ่มเทคโนโลยี และเป็นปัจจัยฉุดดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ

 

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน WTI โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.63% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 2.10% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ทะยานขึ้น 6.36% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 3.05% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 2.63%

 

หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.648% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2.64% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.51% หุ้นเจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 2.39% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ บวก 2.56%
 

 


อย่างไรก็ดี การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง โดยหุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ (เฟซบุ๊ก) ร่วงลง 1.1% หุ้นเทสลา ดิ่งลง 4.14% หุ้นอินเทล ร่วงลง 1.46% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.63% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.36%  หุ้น Zoom Video Communications ซึ่งเป็นผู้ให้บริการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วงลง 14.71% หลังจาก Zoom คาดการณ์ว่า รายได้ของบริษัทอาจชะลอตัวลงในวันข้างหน้า 

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ไอเอชเอส มาร์กิตรายงานว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ย.ของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 59.1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 58.4 ในเดือนต.ค. แต่ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นเดือนพ.ย.อยู่ที่ 57.0 และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 58.7 ในเดือนต.ค.
 



ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2564 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค. รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนต.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนต.ค., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 2-3 พ.ย.

 

ทั้งนี้ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 25 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) และจะเปิดทำการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันศุกร์ที่ 26 พ.ย.
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF