ในระบการสื่อสารด้วยคลื่นวิทยุหากขาดสายอากาศที่มีประสิทธิภาพแล้ว ต่อให้มีเครื่องส่งที่ดีเยี่ยมอย่างไรก็ใช้งานไม่ได้ สายอากาศนั้นมีหลายแบบแล้วแต่จะเลือกใช้ตามความต้องการ การติดตั้งสายอากาศนั้นไม่ยากแต่ก่อนจะติดตั้ง ท่านต้องทำความเข้าใจถึงคุณสมบัติของสายอากาศที่จะติดตั้งว่าเป็นสายอาศชนิดใด การแผ่กระจายคลื่นแบบไหน ต้องการติดต่อใกล้ไกลเท่าไหร่ มาทำความเข้าใจเรื่องสายอากาศกันก่อนนะครับ
สายอากาศรอบตัว มีหลายแบบด้ยกันเช่น RINGO RANGER ,V-TWO 5/8? ,ตระกูลX และอีกเยอะแยะไปหมด สายอากาศแบบนี้มีลักษณะการแพร่กระจายคลื่นออกไปรอบทิศทางแต่ไม่กลมแบบจานเสียทีเดียว มีเว้าๆ แหว่งๆ บ้างคล้ายกับรูปดอกมะลิ สาเหตุเกิดจากกราวด์เพลนแต่ก็ยอมรับให้เป็นการกระจายแบบรอบตัว เสียอย่างเดียวมักจะเสียหายง่ายจากฟ้าฝ่าในขณะฝนตก หรือฟ้าคะนอง
สายอากาศรอบตัวกึ่งทิศทาง สายอากาศแบบนี้ใช้กันมากเพราะสามารถทนกำลังวัตต์สูงๆได้ เช่น ไดโพล ,โฟลเด็ด ไดโพล มีรูปแบบการกระจายคลื่นแบบรอบตัวก็ได้ หรือกึ่งทิศทางก็ได้ แล้วแต่ว่าจะจัดห่วงไปทิศทางไหน เช่น โฟลเด็ดไดโพล 4 ห่วง จัดไปทางเดียวกัน, จัดแบบปีก ผีเสื้อ หรือจัดแบบ 4 ทิศทาง หากจัดแบบไปทางเดียวกันการแผ่กระจายคลื่นจะเป็นแบบรูปไข่ คือออกด้านหน้ามากกว่าด้านหลังแต่การรับเกือบวงกลม
สายอากาศแบบทิศทาง สายอากาศที่เรารู้จักกันดีคือ YAKI มีรูปแบบการกระจายคลื่นไปทางเดียว เช่น YAKI 3E 1 แผง การแผ่กระจายคลื่นเป็นแบบลูกโป่ง หากเป็น 5E ,7E,9E,12E รูปแบบการกระจายคลื่นจะคล้ายกับลูกมะละกอ
การหาสถานที่ติดตั้งก็สำคัญ สถานที่ติดตั้งสายอากาศต้องไม่มีอะไรกีดขวาง หรืออยู่ใกล้สิ่งปลูกสร้าง เช่น ป้ายโฆษณา ตัวตึก ต้นไม้ หากท่านอยู่ในตึกแถว หรือทาวเฮ้าส์ ควรติดตั้งให้พ้นหลังคาบ้านให้มากที่สุด
หากต้องการที่จะติดตั้งสถานีแบบติดต่อกับลูกข่ายที่ใช้วิทยุมือถือ โดยให้สถานีแม่ข่ายต้องสูงให้มากที่สุดกำลังส่งต้องมากด้วยแน่นอน ส่วนลูกข่ายที่อยู่ในตัวเมืองก็ต้องพยายามหาจุดที่จะทำการติดต่อ หรือหาตำแหน่งที่สามารถส่งถึงสถานีแม่ข่ายให้ได้ที่เป็นเช่นนี้เพราะ สถานีแม่ข่ายที่สายอากาศสูงๆสามารถที่จะส่งถึงลูกข่ายได้ แต่ลูกข่ายใช้กำลังส่งต่ำแถมอยู่ในจุดที่อับสัญญาณบังตึก ส่งถึงแม่ข่ายยากซักหน่อยอาจจะลด สเควล์ ลงมาช่วยรับด้วย
วิทยุสื่อสาร 1. แบบชนิดมือถือ มีหลากหลายยี่ห้อด้วยกัน กำลังส่ง ลูกเล่น ความทนทาน ราคา ก็จะต่างกันไป ถ้าจะนำมาทำเป็นสถานีแม่ข่ายก็ได้เช่นกัน ข้อเสียคือกำลังส่งไม่แรงพอที่จะติดต่อกับลูกข่ายที่อยู่ไกลๆได้ แบตหมดเร็วเกิน ดังนั้นควรจะหาแหล่งจ่ายไฟ เช่น เพาเวอร์ซัพพลาย สวิตชิ่ง
1.1 เพาเวอร์ซัพพลายแบบมีหม้อแปลงใหญ่ ตัวนี้จะมีแบบทั้งปรับโวลต์ได้และแบบโวลต์คงที่ วิทยุที่จะนำมาใช้ต้องดูสเปคเครื่องว่ารับแรงไฟได้กี่โวล์ต รุ่นใหม่ๆจะรับแรงดันไฟประมาณ 7.2 โวลต์ ดังนั้นต้องมี
เซฟเวอร์ ที่จะต่อไฟเข้ากับวิทยุ ที่เพาเวอร์ซัพพลายจะมีช่องเสียบจุดบุหรี่สำหรับต่อกับ
เซฟเวอร์ สำหรับวิทยุมือถือแล้ว 5 แอมป์ก็เพียงพอ ราคาจะแพงกว่าแบบสวิตชิ่ง แต่ทนทานกว่า
1.2 เพาเวอร์ซัพพลายแบบสวิตชิ่ง ตัวนี้จะไม่มีหม้อแปลงตัวใหญ่ๆ ราคาถูกกว่าแบบแรก แต่ไม่ทน โดยทั่วไปตามท้องตลาดแบบนี้จะไม่มีที่เสียบจุดบุหรี่มาด้วย ดังนั้นจึงต้องทำที่จุดบุหรี่เพิ่มเติม ต่อสายไฟเอง ปรับโวลต์ได้เหมือนกันแต่ต้องมีมิเตอร์วัดไฟที่จ่ายออกมาว่าจะเหมาะสมกับวิทยุเราหรือไม่
2. วิทยุแบบประจำที่หรือติดรถยนต์ มีหลากหลายยี่ห้อ กำลังส่ง ลูกเล่น ความทนทาน จะต่างกันไป แบบนี้เหมาะที่จะนำมาทำเป็นสถานีแม่ข่าย เพราะกำลังส่งสูง ติดต่อกับลูกข่ายได้ดีกว่าแบบมือถือ ใช้ได้ทั้งแบตรถยนต์และเพาเวอร์ซับพลาย
มีอีกอย่างที่ควรจะมีคือ SWR และ POWER METER ใช้สำหรับวัดกำลังส่งของเครื่องวิทยุและวัดค่าสะท้อนกลับ เพื่อมิให้เป็นอันตรายกับวิทยุหากเกิดข้อบกพร่องขอระบบสายอากาศ
คร่าวๆก่อนนะครับรายละเอียดค่อยว่ากันอีกทีหรือเพื่อนสมาชิกท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติม ช่วยเสริมได้ครับ