คลายล็อกดาวน์หนุน‘ฮอลิเดย์โฮม’พัทยาบูม
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 16 พฤษภาคม 2024 เวลา 04:49:29 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: ห้ามโพสปั่นลิงก์ SEO ในส่วนของ ลายเซ็นสมาชิกเพื่อจะแสดงที่ด้านล่าง ของแต่ละข้อความที่ตอบกระทู้ เช่น คาสิโน บาคาร่า แทงบอล ฯลฯ เด็ดขาด
หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คลายล็อกดาวน์หนุน‘ฮอลิเดย์โฮม’พัทยาบูม  (อ่าน 94 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
deam205
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11960


« เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2021 เวลา 17:44:35 »




นายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณบวกจากการที่รัฐบาลคลายล็อกดาวน์วันที่ 1 ก.ย. ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปี 2563 แนวโน้มการทำงานที่บ้านยาวนานขึ้น ส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปและเริ่มมองหาชีวิตที่ยืดหยุ่นได้ มีพื้นที่พักผ่อนและทำงาน รวมถึงการจำกัดพื้นที่จากการประกาศล็อกดาวน์แต่ละครั้ง ทำให้ผู้คนมองหาทางเลือกบ้านพักตากอากาศ

ส่งผลดีต่อบ้านพักตากอากาศเมืองพัทยามีโอกาสฟื้นตัว โดยเฉพาะโครงการโอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา ได้รับความสนใจและยอดซื้อเพิ่มขึ้นในช่วงโควิด โดยกำลังซื้อส่วนใหญ่มาจากลูกค้าในประเทศ ที่มองว่าพัทยายังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวและการพักผ่อน มี กิจกรรมเชิงไลฟ์สไตล์ให้ทุกคนในครอบครัวได้ทำร่วมกัน ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง 2-3 ชั่วโมง

"กำลังซื้อระดับบนยังคงมองหาคอนโดมิเนียมหรูที่มองเห็นวิวทะเล มีห้องขนาดใหญ่ 80-133 ตร.ม. เป็นบ้านพักตากอากาศหลังที่สอง หรือต้องการเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงาน หากห้องมีขนาดเล็กเกินไป อาจไม่ตอบโจทย์ เพราะการซื้อจะมองถึงประโยชน์การใช้พื้นที่ของสมาชิกในครอบครัวได้มากกว่า"

ขณะเดียวกันมีกลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุนเข้ามามากขึ้น จากศักยภาพของทำเลที่ตั้งนาจอมเทียนมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต จากการก่อสร้างเส้นทางหลวงพิเศษตัดใหม่เลี่ยงเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 ส่วนต่อขยายช่วงพัทยา-มาบตาพุด ที่มีจุดทางลงอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ

นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้ช่วงครึ่งแรกของปี 2564 จะไม่พบว่ามีอุปทานคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในพื้นที่พัทยา แต่ยังคงมีความคืบหน้าของดีเวลลอปเปอร์หลายรายที่มองเห็นโอกาสการลงทุนและศักยภาพของพัทยาได้เตรียมพัฒนาโครงการใหม่ โดยรอจังหวะที่เหมาะสมเมื่อตลาดกลับสู่ภาวะปกติ ทำให้จำนวนหน่วยที่เปิดขายในตลาดปัจจุบันไม่ล้นเกินกว่าความต้องการซื้อที่แท้จริง


“1 ปีครึ่งที่ผ่านมาตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยาได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด กำลังซื้อต่างชาติโดยเฉพาะคนจีนหายไปเหลือเพียงกำลังซื้อในประเทศ”

นอกจากซัพพลายที่มีอยู่ไม่มากจะเป็นโอกาสสร้างยอดขายให้คนไทยที่มองหาบ้านหลังที่สองในแหล่งท่องเที่ยวแล้ว “ขนาด” พื้นที่ของคอนโดมิเนียม ก็มีผลต่อการตัดสินใจซื้อด้วย โดยพบว่า ห้องชุดขนาดมากกว่า 100 ตร.ม. ขึ้นไปเหลืออุปทานในตลาดเพียง 1% ของอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายหรือราว 610 ยูนิต เพราะยูนิตเปิดขายใหม่ในโครงการต่าง ๆ ส่วนใหญ่เป็นห้องขนาดเล็ก

ภาพรวมตลาดอสังหาฯ พัทยา ซึ่งอยู่ในพื้นที่อีอีซี หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย นักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวได้จะทำให้พัทยากลับมาคึกคัก ทั้งมีกำลังซื้อจากแรงงานนอกพื้นที่เข้ามาในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ และเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมสำคัญมีเม็ดเงินลงทุนจากภาครัฐและเอกชนกว่า 5 แสนล้านบาท เป็นปัจจัยบวกสำคัญที่ทำให้เกิดดีมานด์ซื้ออสังหาฯ เพื่อลงทุนเพิ่มขึ้น
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF