ทิศทางค่าเงินบาทและดัชนีหุ้นไทย 22-26พ.ย.64
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 17 พฤษภาคม 2024 เวลา 04:20:58 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: หากสมาชิกท่านใดเข้ามาป่วนเว็บ หรือ ก่อกวนกระทู้บุคคลอื่น หรือ โพสข้อมูล รูปภาพ ที่ผิดต่อกฏกติกา มารยาทอันดีงามของสังคมของเรา
ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับการเมืองแบบเลือกสีเลือกฝ่าย ผู้ดูแลจะพิจารณาลบข้อมูล และลบ User ท่านออกโดยขออนุญาตไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทิศทางค่าเงินบาทและดัชนีหุ้นไทย 22-26พ.ย.64  (อ่าน 116 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
deam205
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11960


« เมื่อ: วันที่ 23 พฤศจิกายน 2021 เวลา 06:33:17 »


กสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทระหว่างวันที่ 22-26พ.ย. 2564 ที่ระดับ 32.30-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ บล.กสิกรไทยคาดดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,640 และ 1,630 จุด

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยแนะติดตาม 4ปัจจัย “ตัวเลขการส่งออกของไทยเดือนต.ค. -ทิศทางเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ -สถานการณ์โควิด-19 ปัจจัยต่างประเทศทั้งเศรษฐกิจสหรัฐ -การประชุมธนาคารกลางเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น  ยูโรโซน และดอกเบี้ย LPR เดือนพ.ย. ของจีน”

 

ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทระหว่างวันที่ 22-26พ.ย. 2564  ที่ระดับ 32.30-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการส่งออกของไทยเดือนต.ค. ทิศทางเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ และสถานการณ์โควิด-19

 

ทิศทางค่าเงินบาทและดัชนีหุ้นไทย 22-26พ.ย.64
ทิศทางค่าเงินบาทและดัชนีหุ้นไทย 22-26พ.ย.64



 ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ข้อมูลรายได้/การใช้จ่ายส่วนบุคคล และดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนต.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย. จีดีพีไตรมาส 3/64 (ครั้งที่ 2) และรายงานการประชุมเฟด (2-3 พ.ย.) นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามการประชุมธนาคารกลางเกาหลีใต้ อัตราดอกเบี้ย LPR ของธนาคารกลางจีน รวมถึง PMI ของอังกฤษ ยูโรโซน และสหรัฐฯ เดือนพ.ย. (เบื้องต้น)  ทั้งนี้ เมื่อในวันศุกร์ (19 พ.ย.) เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 32.74 เทียบกับระดับ 32.81 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (12 พ.ย.)


สำหรับบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด(บล.) มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,640 และ 1,630 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,665 และ 1,675 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนต.ค.ของไทย สถานการณ์โควิด-19 ตลอดจนทิศทางเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนต.ค. ข้อมูล PMI เดือนพ.ย. (เบื้องต้น) ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/64 และบันทึกการประชุมเฟด

 

 

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ข้อมูล PMI เดือนพ.ย. (เบื้องต้น) ของญี่ปุ่นและยูโรโซน ตลอดจนการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนพ.ย. ของจีน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,645.06 จุด เพิ่มขึ้น 0.68% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 83,748.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.19% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.71% มาปิดที่ 562.07 จุด 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF