WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND

ข้างซองสายอากาศสามารถบอกอะไรเราบ้าง
                เวลาเราซื้อสายอากาศจากร้านค้า เราจะเห็นสเปคบนซองบรรจุภัณในแคทตาลอกหรือในคู่มือที่แถมมา ในนั้นจะบอกGain ค่าVSWR บางที่ก็มีรูปร่างของการกระจายคลื่นมาให้เราดู สเปคมีทั้งที่ลงมือวัดลงมือทดสอบกันจริงๆด้วยเครื่องมือมาตรฐาน ในห้องทดสอบหรือสนามทดสอบ บางรายอาจใช้ผลจากการวิเคราะห์ ด้วยโปรแกรมเพื่อการโฆษณาขาย มีสายอากาศที่มีชื่อเสียงหลายๆยี่ห้อ ตัวอย่างเช่น M2(เอ็มสแคว) ,Cushcraft ,  Optibeam เป็นต้น ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยออกแบบสายอากาศให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด หรือสายอากาศที่ออกแบบโดยนักวิทยุสมัครเล่น เช่น Matin Steyer-DK7ZB หรือ Justin Jhonson-G0KSC  เป็นผู้ชำนาญในการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยออกแบบ

  DK7ZB ออกแบบยากิให้มีอิมพีแดนซ์ต่ำเพราะว่า ถ้าอิมพีแดนซ์อยู่ที่50โอห์มเท่ากับเครื่องวิทยุรับส่ง จะได้Gainไม่มากแต่แบนวิธกว้าง ถ้า28โอห์ม แบนวิธแคบลงแต่Gainสูงขึ้น ถ้า12.5โอห์ม Gainสูงมากแต่แบนวิธจะแคบมาก เขาจึงเน้นการออกแบบให้มีอิมพีแดนซ์28โอห์มแล้วหาวิธีแมทชิ่งให้เป็น50โอห์มในภายหลัง

ทางด้านG0KSC มีรูปแบบแนวคิดในการออกแบบของเขาเองอยู่แล้ว ออกแบบสายอากาศไว้หลายรูปแบบ เขาได้นำแนวคิดของDK7ZBมาพัฒนาต่อยอด โดยออกแบบให้สายอากาศมีอิมพีแดนซ์12.5โอห์ม ซึ่งGainสูงแต่แบนวิธแคบมาก เขาใช้วิธีขยับระยะห่างของอีลีเมนต์3อันแรกให้ใกล้กัน จนได้แบนวิธที่กว้างขึ้นมากกว่าที่DK7ZBออกแบบไว้ ตัวอย่างเหล่านี้ ถ้าลงมือทำโดยไม่มีคอมพิวเตอร์มาช่วย จะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากมาก

โปรแกรมช่วยออกแบบสายอากาศ สามารถแสดงPatternทั้งVertical, Horizontalหรือ3D, Gain ,Beam Width, F/B Ratio, Impedance, Graph VSWR ,Smith Chart, Currents หรือ การOptimization เพื่อให้โปแกรมหาค่าที่ดีที่สุดแบบอัตโนมัติ

โปรแกรมไม่ได้วิเคราะห์แต่ตัวสายอากาศเท่านั้น สิ่งแวดล้อมรอบข้างที่เป็นโลหะ สามารถคิดคำนวณได้ เช่นTowerที่ติดตั้งสายอากาศทำให้รูปแบบของคลื่นเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

UP