อยากหน้าเด็ก หน้าใส ไร้ริ้วรอยเหี่ยวย่น ใช้แค่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพียงอย่างเดียว ผลลัพธ์อาจมาแบบไม่ทันใจ ทำให้หลายคนเริ่มหันหน้าเข้าคลินิก ให้คุณหมอใช้หัตถการเป็นตัวช่วย และหัตถการหนึ่งที่กำลังมาแรงในยุคนี้ ก็คือการ
ฉีด Sculptra นั่นเอง
แล้ว Sculptra คืออะไร ต่างจากโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ที่เราคุ้นเคยกันมากน้อยแค่ไหน ส่งผลดีต่อผิวหน้าอย่างไรบ้าง รวมถึงมีอะไรที่ต้องระวังเกี่ยวกับหัตถการนี้บ้าง อยากหน้าอิ่มฟูใสแบบทันใจ มาดูข้อมูลดี ๆ ได้ในบทความนี้เลย
การฉีด Sculptra คืออะไร? Sculptra เป็นวิธีการเติมเต็มใบหน้าแบบกึ่งถาวรประเภทหนึ่ง โดยแพทย์จะใช้สาร Sculptra ซึ่งประกอบด้วย Poly-L-lactic acid (PLLA) สารสังเคราะห์ชีวภาพที่ปลอดภัยและเข้ากันได้กับร่างกาย เมื่อสาร Sculptra ถูกฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนัง จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว และสารที่ฉีดเข้าไปจะค่อย ๆ สลายไปจากร่างกายเองอย่างช้า ๆ ตามธรรมชาติ
ประโยชน์ของการฉีด Sculptra นวัตกรรมการฟื้นฟูผิวด้วยสาร Sculptra มีประโยชน์มากมาย ไม่เพียงแต่ทำให้หน้าดูอิ่มฟูและใสขึ้น แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในผิวหนัง ทำให้ผิวดูกระชับและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดริ้วรอย ลดจุดด่างดำ และปรับรูปหน้าให้ดูมีสมดุล โดยทั่วไปผลลัพธ์จะเห็นได้ภายใน 2-3 เดือนหลังจากการทำ ซึ่งสามารถสรุปผลลัพธ์ให้เห็นภาพได้ ดังนี้
- เติมเต็มริ้วรอยลึก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ให้ดูตื้นขึ้น
- ยกกระชับใบหน้า ให้ดูเต่งตึง อิ่มฟู
- ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
- ผิวหน้าดูอิ่มน้ำ ชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น
- ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ค่อยเป็นค่อยไป
- มีอาการบาดเจ็บหลังฉีดน้อย ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
การกู้คืนผิวหน้าเนียนกระชับและอ่อนกว่าวัยด้วยวิธีนี้ เหมาะกับผู้ที่ต้องการเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ยกกระชับผิวหน้าจากความหย่อนคล้อย และต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่หากคุณกำลังตั้งครรภ์ อยู่ระหว่างให้นมบุตร หรือมีโรคประจำตัวบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์อีกครั้ง เพราะอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
ผลข้างเคียงและการดูแลหลังฉีด Sculptra ผลข้างเคียงที่พบบ่อยหลังการทำหัตถการนี้ คือมีอาการบวม แดง คัน และรอยช้ำในบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยหลังฉีด ควรดูแลตัวเองเพื่อลดผลข้างเคียง ด้วยการประคบเย็นในบริเวณที่ฉีด ดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงเพื่อป้องกันแผลถูกกดทับนั่นเอง
การฉีด Sculptra ถือเป็นวิธีการเติมเต็มใบหน้าแบบกึ่งถาวรที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มฟู เต่งตึง ริ้วรอยดูตื้นขึ้น และผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ได้ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 1-2 ปี อย่างไรก็ตาม ควรเลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติการแพ้ และดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการอย่างปลอดภัยที่สุด
