บอกตามตรง สงสัยมานานแล้วครับ ช่วยอธิบายให้ฉลาดสะทีเถอะ อิอิ
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 30 เมษายน 2024 เวลา 11:36:30 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: ท่านที่มีกระทู้เยอะ เวลาอัพยกแผงทำให้กระทู้ท่านอื่นตกเร็วมากต่อไปให้อัพ ไม่เกินชั่วโมงละ 2ครั้ง/2กระทู้ นะครับ ชม.ถัดไปถึงอัพใด้อีก 2ครั้ง/2กระทู้
หากต้องการอัพแบบไม่จำกัด
คลิกที่นี่
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บอกตามตรง สงสัยมานานแล้วครับ ช่วยอธิบายให้ฉลาดสะทีเถอะ อิอิ  (อ่าน 15340 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ergo_ud
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 541


สะบายดี อุดรธานี


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 19 กรกฎาคม 2013 เวลา 08:34:42 »


ได้ความรู้เยอะเลยคับ  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

HS4ERE  E-mail: hs4ere@hamsiam.in.th
แวะมา "อุดรธานี" ทักได้ที่ 144.625 Mhz, 146.650 Mhz (Dup-)
คติ : รักแท้ไม่แค่เรื่องบนเตียง ระเบียงก็ได้ ฮิ ฮิ ฮิ
bompat
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 22


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 19 กรกฎาคม 2013 เวลา 11:57:12 »

 ไม่รู้ว่าผมจะช่วยได้ไหม บอกก่อนว่าไม่เก่งภาษา  และจบช่างก่อสร้าง ไม่ใช่อิเล็ก..

...ผมเคยได้ยินคนคุยกันในความถี่

  1-ท่านใช้ เรกกลูเรท ชนิดใดครับ?
 2- ผมใช้ เป็นเพาเวอร์ซับพลาย  30แอมป์ครับ

  ฟังแล้ว งง งง  ไหมครับ  

  วิทยุที่เราใช้รับส่ง มันก้อเหมือนคนเรานี่แหละ  คือมันต้องกิน เหมือนเรากิน  มันถึงจะมีแรงรับและส่งเสียงให้เราได้ยิน แล้วมันก้อต้องออกแรงส่งสัญญาณไปไกลๆด้วย   ยิ่งตัวใหญ่ก้อยิ่งกินจุ

 ฉะนั้น  อาหารที่เรากิน มันก้ออาจจะเรียกได้ว่าแหล่งพลังงาน   เช่นเดียวกันวิทยุก้อต้องมีแหล่งพลังงาน  ซึ่งจะเป็นแหล่งพลังงานแบบไหน มันก้อคือแหล่งพลังงาน(เพาเวอร์ซับพลาย)   กลับกัน แปลเป็นไทย เพาเวอร์ซับพลาย=แหล่งพลังงาน  

กลับมาที่  คน เราๆ  แหล่งพลังงานของคนเรา มีกี่ชนิด ?  
โอ้ยเยอะ  อันนี่เรยกว่าประเภท ข้าวแกง  ผัดไทย  เตี๊ยวไก่  ไข่ดาว  ส้มตำหรือ ยำวุ้นเส้น  นี่คือพลังงานทั้งนั้น

กับมาที่วิทยุ
 
แหล่งพลังงานของวิทยุเรา คือเพาเวอร์ซับพลาย  ก้ออาจจะแบ่งเป็นประเภท ได้ 2 ประเภทกระมั่ง ที่ปล่อยไฟมาให้วิทยุเรากิน
-  แบตเตอรรี่
- หม้อแปลง  หม้อแปลงก้อน่าจะแบ่งเป็น 2ชนิด ตามหลักการทำงาน ตามที่ท่านพี่ สังสัย (เอาแบบเข้าใจแบบ งง งง อย่างผม)
1.หม้อแปลงแบบ เรกกลูเรเตอร์  ไอ้ที่มีขดลวดหนักๆ นั้นแหละ  อันนี้อาจเรียกว่าข้าวแกง

2.หม้อแปลงแบบ  สวิทชิ่ง  เบาๆ มีอุปกรณ์มากมาย และไฟดูด   อันนี้อาจเรียกว่า ก๊วยเตี๊ยว


  ผิดถูกยังไงก้อช่วยชี้แนะด้วยนะครับ ทุกๆท่าน ยิงฟันยิ้ม
Good ยิ้ม
บันทึกการเข้า

คิดจะเป็นคนเหนือคน ต้องอดทนเหนือคนธรรมดา
hs2ubk
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 42



อีเมล์
« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 19 กรกฎาคม 2013 เวลา 13:05:32 »

ความหมายของ Regulator=ควบคุม

ด้านล่างเป็นบทความที่คัดลอกมาให้อ่านครับ เพราะเป็นบทความที่อ่านแล้วเข้าใจง่ายครับ


Power supplies  มีด้วยกัน 4 ชนิด  

1.Unregulated  (หรือเรียกอีกอย่างว่า brute force)
     Unregulated  power  supply  นั้นเป็นแบบธรรมดา ซึ่งประกอบไปด้วย transformer, rectifier และ low-pass filter โดยทั่วไป power supplies ชนิดนี้ จะจ่ายค่า voltage ไม่คงที่ และยังมีสัญญาณ AC มารบกวนในขณะที่จ่ายไฟ DC   ถ้าค่าอินพุท voltage ไม่คงที่ ก็จะทำให้ค่าเอาท์พุท voltage ที่จ่ายออกมาไม่คงที่ไปด้วย
      ข้อดี ของ unregulated supply  ก็คือ ราคาถูก ใช้งานง่าย  และมีประสิทธิภาพ แต่เสถียรภาพตำ

2.Linear regulated
     Linear regulated supply  ก็คือ  unregulated  power  supply  ตามด้วยวงจรทรานซิสเตอร์ที่ทำงานในโหมด "active"  หรือ "linear"  ด้วยเหตุนี้จึงได้ชื่อว่า linear regulator โดยทั่วไป linear regulator ถูกออกแบบมาให้จ่ายค่า voltage ตามที่กำหนดสำหรับ input voltages ย่านกว้าง และมันจะลดค่า input voltage ที่เกินมาเพื่อให้สามารถจ่ายค่า output voltage สูงสุดให้แก่โหลด ผลจากการลดค่า input voltage ที่เกินมา  แสดงออกมาในรูปของความร้อน แต่ถ้า input voltage ลดต่ำลง จะทำให้วงจรทรานซิสเตอร์สูญเสียการควบคุม นั้นหมายถึงว่ามันไม่สามารถรักษาระดับ voltage มันทำได้เพียงแค่ลดค่า voltage ที่เกินมาเท่านั้น ไม่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องการลดลงของ voltage ที่มาจากภาค brute force ของวงจร เพราะฉะนั้นท่านต้องรักษาระดับของ input voltage ให้สูงกว่า output ที่ต้องการอย่างน้อย 1 ถึง 3 volts ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของ regulator นั้นหมายถึงว่าพลังงานได้จากวงจร regulator จะมีค่าเท่ากับ อย่างน้อย 1 ถึง 3 volts คูณกับกระแสของโหลดทั้งหมด และปลดปล่อยความร้อนออกมามาก จากสาเหตุนี้ทำให้ regulated power supplies ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ และจากการที่ต้องระบายความร้อยที่เกิดขึ้นทำให้มันต้องใช้ตัวระบายความร้อนขนาดใหญ่ส่งผลให้มันมีขนาดใหญ่  หนัก และ ราคาแพง

3.Switching regulated
     Switching regulated power supply ("switcher")   เกิดจากความพยายามรวมข้อดีของการออกแบบทั้ง brute force and linear regulated power supplies ( เล็ก , มีประสิทธิภาพ , และถูก  อีกทั้งยัง "สะอาด", voltage ที่จ่ายออกมาก็คงที่ ) การทำงาน ของ switching power supplies ใช้วิธีการปรับค่าของ AC power line voltage ที่เข้ามาให้เป็น DC แล้วเปลี่ยนมันให้เป็น square-wave AC ที่มีความถี่สูง  โดยผ่าน transistors ที่ทำงานเหมือนสวิทช์เปิด-ปิด แล้วปรับค่า AC voltage ขึ้น-ลง โดยใช้ lightweight transformer จากนั้นเปลี่ยนค่า AC output ให้เป็น DC แล้วกรองสัญญาณก่อนจ่ายค่าออกไป การปรับค่า voltage ทำได้โดยการปรับที่ หม้อแปลงด้าน primary เพื่อเปลี่ยน duty-cycle ของ DC-to-AC inversion เหตุผลที่ switching power supplies มีน้ำหนักเบากว่าแบบอื่นก็เนื่องมาจากแกนของหม้อแปลงที่มีขนาดเล็กกว่า
      
       ข้อดี ของ Switching power supplies ที่ทำให้มันเหนือกว่า 2 แบบแรกคือ power supply แบบนี้สามารถใช้ได้กับระบบไฟฟ้าทุกแบบที่มีในโลกนี้ ด้วยเหตุนี้มันจึงถูกเรียกว่า "universal" power supplies.
 
     ข้อเสีย ของ switching power supplies คือมันค่อนข้างซับซ้อนมากกว่า และ ดูจากการทำงานของมันจะเห็นว่ามันจะทำให้เกิดสัญญาณรบกวน AC ที่มีความถี่สูงกับสายไฟมาก Switching power supplies ส่วนใหญ่เวลาจ่ายค่าออกมาก็มี voltage ไม่คงที่เช่นกัน Switching power supplies ที่มีราคาถูกนั้นก็มีสัญญาณรบกวนและค่าไม่นิ่ง แย่พอๆ กับ unregulated power supply  ถ้าพูดถึงพวก low-end switching power supplies แล้วก็ไม่ถึงกับไม่มีค่า เพราะมันก็ยังสามารถให้ output voltage ที่คงที่ และมีคุณสมบัติของ "universal" input
     สำหรับ Swithching power supplies ที่มีราคาแพงนั้น ไฟที่จ่ายออกมาจะนิ่งและ มีสัญญาณรบกวนน้อยพอๆกับ แบบ linear ราคาก็แพงใกล้เคียงกับ linear supplies เหตุผลในการเลือกใช้ switching power supplies ที่มีราคาแพง แทนที่จะใช้ linear power supplies ที่ดีๆ ก็คือในกรณีที่ต้องการใช้กับ universal power system หรือต้องการประสิทธิภาพสูง น้ำหนักเบา  และ ขนาดที่เล็กคือ เหตุผลที่ switching power supplies ถูกใช้อย่างกว้างขวางในพวกวงจรคอมพิวเตอร์ที่เป็นดิจิตอล

4.Ripple regulated
    เป็นการผสมผสานกันระหว่าง "brute force" กับ "switching" โดยรวมเอาข้อดีของทั้งสองแบบไว้ในตัวมันเอง Ripple-regulated power supply เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการออกแบบวงจร linear regulated: "brute force" power supply (transformer, rectifier, and filter) ประกอบไปด้วย ส่วนหน้าของวงจร แต่ทรานซิสเตอร์ก็ทำงานในโหมด on/off (saturation/cutoff) โดยทำหน้าที่ส่งผ่าน DC power ไปยัง คาปาซิสเตอร์ขนาดใหญ่ เพื่อรักษาระดับ output voltage ให้อยู่ในช่วงสูง และต่ำของค่าที่กำหนด เช่นเดียวกับใน switching power supply เมื่ออยู่ในโหมด "active" หรือ "linear" ทรานซิสเตอร์ ที่อยู่ใน ripple regulator นั้นไม่ยอมให้กระแสผ่านไปได้ หมายความว่าจะมีพลังงานเพียงเล็กน้อยที่จะสูญเสียออกมาในรูปของความร้อน อย่างไรก็ตามอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของวงจร Regulation คือ การกระเพื่อมของ voltage ที่จ่ายออกไปซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น DC voltage ผันผวนระหว่างค่า voltage ที่ตั้งไว้สองค่า รวมถึงการกระเพื่อมของ voltage ที่แปรผันไปตามความถี่ของ กระแสของโหลด ซึ่งจะส่งผลให้การกรองสัญญาณ DC power เป็นไปได้ยาก วงจร Ripple regulator เมื่อเทียบกับวงจร switcher แล้วจะดูไม่ซับซ้อนเท่า และไม่มีความจำเป็นจะต้องรองรับ voltage สูงๆจาก power line เหมือนกับที่ ทรานซิสเตอร์ของ switcher ต้องรองรับ นี้ทำให้มันปลอดภัยในการใช้งาน

ผมจึงขอสรุปให้ได้ว่า แหล่งจ่ายไฟที่ดีและมีเสถียรภาพ ต้องมีการ Regulated ครับ
  


ยิงฟันยิ้ม ตามหลักวิชาการเปะเลย จากนั้นก็มีแตกย่อยในแต่ละประเภทลงไปอีกเยอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 กรกฎาคม 2013 เวลา 13:08:20 โดย hs2ubk » บันทึกการเข้า


HS2UBK/KK6UCB/153RT561 ประธานกลุ่ม Labor HAM ระยอง
HS4YQG
Super Hero Member II
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5892

อิจฉาริษยาเขา เท่ากับจุดไฟเผาตัวเอง


Facebook
« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 19 กรกฎาคม 2013 เวลา 13:23:34 »

ขอบคุณครับสำหรับความรู้
บันทึกการเข้า

ติดต่อสอบถามได้ที่  โทร/ LINE ID: 0833687201
e20ivu
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 545


คับที่อยู่ได้ แต่คับใจอยู่ยาก


อีเมล์
« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 19 กรกฎาคม 2013 เวลา 18:29:56 »

 ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ดีมากเลยครับเป็นวิชาความรู้แก่คนที่ยังไม่เข้าใจความหมายของ สวิตชิ่ง และเรทกุเรเตอร์ ซึ่งทั้งสองชนิดก็เป็นเพาเวอร์ซัพพายเหมือนกันครับ  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

นายหัสนัย วีระจินตนา ที่อยู่ 333/78 ม.4
สถานที่จัดส่งของ สำนักงานชลประทานที่8 ถ.สืบศิริ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา 30000
นักวิทยัสมัครเล่นกลุ่มมิตรสัมพันธ์นครราชสีมา
แสตนบายความถี่ 144.625 Mhz
บัญชี ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ เลขที่ 7490019754
เบอร์ติดต่อ 0825879987,0969455423
HS0LXI_อ้วน เมืองลิง
Super Member
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1617


ลพบุรีบ้านเกิดถิ่นกำเหนิด HS0LXI (อโยธยา ราชธานี)


อีเมล์
« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 22 กรกฎาคม 2013 เวลา 22:53:20 »

อืม ... ฉลาดขึ้นมาอีกเยอะเลย

ขอบคุณมาก ๆ ครับ
บันทึกการเข้า

081-2913050 / ID Line : lopburi999
 
RE-SHOCK
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 812



« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 22 กรกฎาคม 2013 เวลา 23:57:51 »

ดังนั้น  เวลาถาม ต้องถามว่า  ท่านใช้ พาวเวอร์ ซัพพลาย ชนิดใด

เวลาตอบ

ถ้าเป็นหม้อแปลงหนักๆ  ก็ตอบว่า เป็น เรกกูเลท  กี่แอมป์ ก็ว่าไป
ถ้าเป็นบอร์ด วงจรเบาๆ  ก็ตอบว่า เป็น สวิชชิ่ง กี่แอมป์ ก็ว่าไป


ต่อไปก็จะสงสัยว่าแล้วอันไหนใช้ดีกว่ากันอีก ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
HS0LXI_อ้วน เมืองลิง
Super Member
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1617


ลพบุรีบ้านเกิดถิ่นกำเหนิด HS0LXI (อโยธยา ราชธานี)


อีเมล์
« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 23 กรกฎาคม 2013 เวลา 00:01:56 »

ดังนั้น  เวลาถาม ต้องถามว่า  ท่านใช้ พาวเวอร์ ซัพพลาย ชนิดใด

เวลาตอบ

ถ้าเป็นหม้อแปลงหนักๆ  ก็ตอบว่า เป็น เรกกูเลท  กี่แอมป์ ก็ว่าไป
ถ้าเป็นบอร์ด วงจรเบาๆ  ก็ตอบว่า เป็น สวิชชิ่ง กี่แอมป์ ก็ว่าไป


ต่อไปก็จะสงสัยว่าแล้วอันไหนใช้ดีกว่ากันอีก ยิงฟันยิ้ม

ถะ ๆๆๆๆๆๆๆๆ ถูกต้องนะคราบบบบบบบบบบ   ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

081-2913050 / ID Line : lopburi999
 
หน้า: 1 [2]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF