สเปรย์พริกไทย ผิดกฎหมายหรือไหม
“ข่มขืนแล้วฆ่าสุดอำมหิต ฆาตกรงัดร้านมินิมาร์ทกลางดึกเข้าไปขยี้สาวใหญ่เจ้าของร้านจนหนำใจ ขณะที่เหยื่อพยายามต่อสู้ คว้าเหล็กแป๊ปจะตีเลยโดนฟันด้วยมีดเหวะหวะทั้งตัวตายคามือ ก่อนที่จะหลบหนีไปพร้อมทรัพย์สิน ตำรวจคุยรู้ตัวผู้ต้องสงสัยว่า เป็นคนในพื้นที่” สาวใหญ่ท่านนี้ อาจจะรอดชีวิตหากในวันนั้นเธอมีอุปกรณ์ป้องกันตัว ที่เหมาะสมในการป้องกันตัวมากกว่า เหล็กแป๊ป
สเปรย์พริกไทย เป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวที่ได้รับความนิยมเพื่อการป้องกันตัวของผู้หญิงมาเป็นเวลานาน เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวที่หยุดคนร้ายได้จริง แต่ไม่ส่งผลแค่เพียงให้เกิดอาการไอจาม หรือแสบตา ลืมตาไม่ขึ้น โดยอาการทั้งหมดจะหายไปในเวลา ประมาณ 15-30 นาที ซึ่งจะไม่ส่งผลร้ายกับคนร้ายในระยะยาว แต่ก็เป็นระยะเวลาที่เพียงพอในการหนีเอาตัวรอด
จากเหตุผลดังกล่าว สเปรย์พริกไทย จึงเป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวที่ดีที่สุดสำหรับผู้หญิง ปลอดภัยกว่าการใช้มีด หรือเครื่องช๊อตไฟฟ้า และหยุดคนร้ายทันที ดีกว่าอุปกรณ์ส่งเสียงดัง หรือสเปรย์สี แบบใดๆ
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าเสียดาย ที่อุปกรณ์ป้องกันตัว ที่ชื่อว่า สเปรย์พริกไทย ในประเทศไทย กลับเป็นของผิดกฎหมาย ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง รายชื่อวัตถุอันตรายในความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 แก้ไขเพิ่มเติมตามประกาศ พ.ศ.2546 พ.ศ.2547 และ พ.ศ.2548 ในลำดับที่ 258 ได้ระบุไว้ว่า “ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสำคัญที่ใช้เพื่อขัดขวางระบบการ ทำงานของร่างกายเป็นการชั่วคราวเพื่อการป้องกัน ตัวหรือทำร้ายผู้อื่น ” เป็นวัตถุอันตรายประเภทที่ 4 โดย ห้ามมิให้ นำเข้า จำหน่าย พกพา สำหรับผู้ที่ฝ่าผืนมีโทษจำคุก 10 ปี หรือปรับ 1,000,000 บาท โดยทั้งนี้ คณะกรรมการอาหารและยา ติดความว่าหมายถึง สเปรย์พริกทุกชนิด
แล้วท่านว่าอย่างไร