โคตรท็อปฟอร์ม! 5 ประเด็นร้อนหลังบาเยิร์นถล่มยับสับบาร์ซ่าเละเทะ
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 28 เมษายน 2024 เวลา 04:20:30 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: ต้องขออภัย!!! เนื่องจากตอนนี้เว็บไซต์กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา หากมีความผิดพลาดในเว็บประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ และจะเป็นการขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง หากท่านนำความผิดพลาดนั้นมาแจ้งให้กับผู้ดูแลฯ แล้วทางเราจะรีบเข้าไปแก้ไขในความผิดพลาดนั้นๆให้เร็วที่สุด
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โคตรท็อปฟอร์ม! 5 ประเด็นร้อนหลังบาเยิร์นถล่มยับสับบาร์ซ่าเละเทะ  (อ่าน 388 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Sammphp
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 44


« เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2020 เวลา 11:45:25 »


เป็นคืนที่ บาร์เซโลน่า พบกับความอับอายเป็นอย่างยิ่งหลังต้องพ่ายให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ขาดลอยถึง 8-2 เลยทีเดียว ก่อนเกมคงไม่มีใครคิดว่าผลการแข่งขันจะออกมามโหฬารขนาดนี้ คงต้องชมความไร้เทียมทานของ "เสือใต้" โดยเฉพาะแนวรุกทั้งตัวจริงตัวสำรองที่ช่วยกันกระหน่ำทำประตูถึง 8 ประตู เกิดอะไรขึ้นในเกมนี้ เรามาเจาะลึกประเด็นน่าสนใจกัน
1.ค่ำคืนมุลเลอร์

ก่อนเกมนี้หลายคนโฟกัสที่ ลีโอเนล เมสซี่ หรือไม่ก็ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แต่ MVP ของค่ำคืนที่ผ่านมาหรือเรียกได้ว่าเป็นคีย์แมนคนสำคัญในเกมรุกของ “เสือใต้” ก็ต้องเป็น โธมัส มุลเลอร์ คนนี้ แข้งวัยเก๋าชาวเยอรมันจบแมตช์ด้วยการทำ 2 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ และผู้เล่นบาร์เซโลน่าหยุดการเคลื่อนที่ของเขาไม่อยู่

แม้จะเข้าสู่วัย 30 ปีแล้วแต่คลาสของ “โธมัส มุลเลอร์” ยังเจ๋งไม่เปลี่ยนแปลง แค่ในลีกฤดูกาลนี้เจ้าตัวก็ทำ 8 ประตูพร้อมกับครองแอสซิสต์มากที่สุด 21 ครั้งแล้ว ขณะที่เกมนี้เรียกได้ว่าท็อปฟอร์มสุดๆ จังหวะประตูแรกต้องชมความนิ่งในการแปะบอลเร็วให้ เลวานดอฟสกี้ ก่อน มุลเลอร์ จะวิ่งซัดด้วยซ้ายสุดเฉียบขาด ขณะที่ประตูที่สองของเขาโชว์ให้เห็นสัญชาตญาณการจบสกอร์ของเขาหลังวิ่งโฉบตัดหน้า ล็องเล่ต์ ทำประตู

นอกจากเรื่องในสนามที่ มุลเลอร์  คว้าแมน ออฟ เดอะ แมตช์ของเกมนี้ เรื่องนอกสนามเขาก็แสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่ยอดเยี่ยมหลังให้สัมภาษณ์ว่า “ในรอบรองชนะเลิศมันจะกลับมาเริ่มที่ 0-0 เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อชนะรอบ 8 ทีมหรือชนะรองรองฯ แต่เรามาที่นี่เพื่อชนะรอบชิง”

2.ศัตรูที่โหดเหี้ยมที่สุดของบาร์ซ่า

นี่ถือเป็นครั้งแรกที่บาร์เซโลน่าเสียประตูตั้งแต่ 5 ลูกขึ้นไปใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1949 ที่ “เจ้าบุญทุ่ม” เสียถึง 7 ประตูในเกมเดียว มากไปกว่านั้นยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1951 ที่พวกเขาพ่ายแพ้สกอร์ห่างถึง 6 ลูก และยังเป็นครั้งแรกที่มีทีมยิง 8 ประตูในรอบน็อคเอ๊าท์ ชปล.

เครดิตรวมๆต้องให้ความโหดของ บาเยิร์น แต่ฝั่งบาร์เซโลน่าเองก็ทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้จักจำ แทร์ ชเตเก้น พยายามเล่นบอลสั้นกับกองหลังในเขตโทษตัวเองซึ่งพอเจอคู่แข่งบีบพื้นที่ใส่ก็เสียบอลหน้าปากประตูตลอด ทั้งที่รู้ว่าเล่นด้วยวิธีนี้ไม่ได้ก็ยังฝืนเล่นต่อ ขณะที่กองกลาง เฟร็งกี้ เดอ ยอง และ เซร์จี โรแบร์โต้ พ่ายแพ้ในแดนกลางอย่างชัดเจน ด้านแบ็กขวา เนลสัน เซเมโด้ โดนแข้งบาเยิร์นเจาะกระจุยกระจาย

บาร์ซ่ายังเกิดข้อผิดพลาดในเกมรับตลอดซึ่งหากคุณได้ดูพวกเขานับตั้งแต่รีตาร์ทซีซั่นมาคงเข้าใจเหตุผลว่าทำไมเสียแชมป์ให้กับ เรอัล มาดริด “เสือใต้” ถือทำได้ยอดเยี่ยมแต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเกมนี้คือคนคงพูดถึงความย่ำแย่ของ บาร์เซโลน่า มากกว่า

3.คูตี้ล้างแค้น

โคตรท็อปฟอร์ม! 5 ประเด็นร้อนหลังบาเยิร์นถล่มยับสับบาร์ซ่าเละเทะ
ค่ำคืนที่ว่าแฟนบาร์เซโลน่าเจ็บปวดแล้วมีสิ่งที่ตอกย้ำความเจ็บนี้เข้าไปอีกเมื่อ บาเยิร์น มิวนิค ส่งตัวสำรองอย่าง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ลงสนามในช่วง 15 นาทีซึ่งเขาถือเป็นนักเตะบาร์ซ่าปล่อยให้ยืมตัวมาในฤดูกาลนี้และถูกคาดหมายว่าจะต้องกลับสู่ต้นสังกัดหลังพี่เสือเลือกที่จะไม่ซื้อขาดเนื่องจากค่าตัวแพงเกินไป

มื่อ คูตินโญ่ ลงมาไม่กี่นาทีเขาก็ครอสบอลให้ เลวานดฟสกี้ โขกประตูที่ 6 ให้กับ “เสือใต้” และในช่วง 5 นาทีสุดท้ายเขาก็กระหน่ำอีก 2 ประตูใส่ต้นสังกัดแม่ พอเห็นฟอร์มแบบนี้แล้ว น่าจะเป็นคำถามว่า บาร์ซ่า สมควรที่จะปล่อย คูตินโญ่ ออกจากทีมอีกครั้งไหม เพราะมีข่าวอย่างหนักกับ อาร์เซน่อล ที่หวังจะยืมตัวมาใช้งานในฤดูกาลหน้า ในสถานการณ์ที่ทีมกำลังเจอวิกฤตทางการเงินทำให้ซื้อตัวผู้เล่นไม่ได้ หากปล่อย คูตินโญ่ ไปอีกก็น่าเสีดายพอสมควร รอดูกันว่าเมื่อปิดตลาดเจ้าตัวจะกลับมาเสื้อบาร์เซโลน่าอีกครั้งหรือไม่

4.เซเตียนเตรียมชะตาขาด

เวลาของ กิเก้ เซเตียน ในการเป็นกุนซือบาร์เซโลน่าคงจะมาจุดสิ้นสุดแล้วจริงๆ การพลาดแชมป์ลาลีการวมถึง โกปา เดล เรย์ ก็ถือว่าเสียหายมากทีเดียว การพ่ายแพ้ถล่มทลายแบบนี้ยิ่งน่าขายหน้าเข้าไปใหญ่

ในช่วงครึ่งแรก เซเตียน แทบไม่ได้ออกแอ็คชั่นกระตุ้นนักเตะเลย การยืนนิ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นใจ ไม่มีไอเดียในการแก้เกม จากทีมแย่อยู่แล้วยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีก ขณะที่ อ็องตวน กรีซมันน์ ถูกส่งลงมาแทนที่ของ เซร์จี้ โรแบร์โต้ ในช่วงพักครึ่งซึ่งเป็นการเปลี่ยนตัวครั้งแรกของเกม หลายคนมองว่าอาจจะช้าเกินไปเพราะ 30 นาทีแรกพวกเขาตามหลังถึง 4-1 โค้ชน่าจะต้องมีความเด็ดขาดและน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นบ้าง ขณะที่ตัวสำรองอีกหนึ่งคนอย่าง อันซู ฟาติ ลงมานาทีที่ 70 ซึ่งก็ถือว่าช้าเกินไปแล้วจริงๆ สรุปแล้วเกมนี้เขาใช้ตัวสำรองแค่ 2 คนเท่านั้น

เซเตียน เซ็นสัญญากับทีมจนถึงปี 2022 นี่คงเป็นความผิดพลาดอีกครั้งของบอร์ดบริหารบาร์เซโลน่า เชื่อว่าภายในสัปดาห์นี้เก้าอี้กุนซือของบาร์เซโลน่าคงว่างลงอีกครั้ง

5.ฟอร์มแบบนี้ถึงแชมป์

บาเยิร์น มิวนิค ยิงประตูรวมในทุกรายการ 155 ประตูจากการแข่งขันทั้งหมด 50 นัด (บุนเดสลีกา 100, เดเอฟเบ โพคาล 16 และ แชมเปี้ยนส์ ลีก 39) ซึ่งเฉลี่ยตกเกมละ 3.1 ประตูเลยทีเดียว และจำนวนประตูนี้ถือว่ามากกว่าฤดูกาล 2012/13 คว้าทริปเปิ้ลแชมป์เสียอีก (151 ประตู)

ณ ตอนนี้ “เสือใต้” คว้าชัยชนะรวดมาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มและยังไม่มีนัดไหนที่สะดุดเลยแม้แต่น้อย เมื่อดูจากฟอร์มแล้วก็คงบอกได้ว่าหากพวกเขาพลาดแชมป์ไปถือว่าน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามต้องมารอลุ้นกันว่าคืนนี้ใครจะเป็นคนที่มาท้าชิงพวเขาในรอบรองชนะเลิศซึ่งหลายคนคาดหมายว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เต็งหนึ่งในรายการนี้ แค่คิดก็มันส์แล้วหาก “เรือใบสีฟ้า” ต้องมาปะทะกับ “เสือใต้” คงเป็นเกมที่สาดเกมรุกใส่กันไม่ยั้ง รอดูกันว่าลูกทีมของ ฮันซี่ ฟลิค จะท็อปฟอร์มในรอบต่อไปหรือไม่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :  ผลบอลเมื่อคืน, ผลบอลสด 7m, บ้านผลบอล

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF