Android Box คืออะไร ใช้งานด้านไหน เลือกซื้ออย่างไร
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 29 มีนาคม 2024 เวลา 02:20:33 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: ห้ามโพสปั่นลิงก์ SEO ในส่วนของ ลายเซ็นสมาชิกเพื่อจะแสดงที่ด้านล่าง ของแต่ละข้อความที่ตอบกระทู้ เช่น คาสิโน บาคาร่า แทงบอล ฯลฯ เด็ดขาด
หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: Android Box คืออะไร ใช้งานด้านไหน เลือกซื้ออย่างไร  (อ่าน 390 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Sammphp
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 44


« เมื่อ: วันที่ 14 สิงหาคม 2020 เวลา 16:10:48 »


คำถามแรกๆ เลยสำหรับมือใหม่ ที่ทาง Admin ThaiMKV เจอมากที่สุดหนีไม่พ้นคำถามว่า Android Box คืออะไร ดังนั้นเพื่อความเข้าใจเบื้องต้นอธิบายง่ายๆ ก็คือ กล่องที่ใช้ต่อเชื่อมกับทีวี และในตัวกล่องมีระบบปฏิบัติการ Android เหมือนกับที่เราใช้ในโทรศัพท์ Smartphone ของเรา


เนื่องจากตัวระบบปฏิบัติการเป็น Android เราจึงสามารถดาวน์โหลด Application ต่างๆมาใช้งาน จาก Playstore ได้ตามชอบใจซึ่ง เช่น Youtube, Facebook หรือ อื่นๆ ในปัจจุบัน App ที่เกี่ยวกับ IPTV ค่อนข้างเป็นที่นิยมและใน Android Box ก็รองรับ App ต่างๆที่ใช้ดู IPTV มากมาย ทั้งเสียเงินและไม่เสียเงิน

อีกคุณสมบัติหนึ่งของการใช้งาน Android Box คือ เราสามารถนำ Android Box ต่อ Harddisk เพื่อดูหนังหรือไฟล์ Multimedia ต่างๆที่อยู่ใน Harddisk ซึ่งจุดนี้เองทำให้ราคา Android Box บางรุ่นจะสูงกว่าอีกรุ่นเพราะความสามารถด้านการประมวลผลข้อมูลวีดีโอและเสียงของกล่องแต่ละรุ่นแตกต่างกัน

การประยุกต์ใช้งาน Android Box กับทีวีที่บ้านท่านสามารถแบ่งได้ 3 แบบ


1. สำหรับคนที่ใช้ทีวีรุ่นเก่าไม่ใช่ SmartTV ก็จะเป็นการ Upgrade TV ของท่านให้มีลูกเล่นและประสิทธิภาพล้ำหน้ากว่า Smart TV ในราคาที่ถูกกว่าหลายเท่าตัวกว่าการที่ท่านต้องไปซื้อทีวีใหม่


2. สำหรับท่านที่มี SmartTV แต่ไม่ใช่ระบบปฏิบัติการ Android ก็สามารถใช้งาน Android Box ได้เช่นเดียวกัน โดยการประมวลผล App ต่างๆเราสามารถเลือกได้ว่าให้มาทำงานที่ Box ของเราหรือ TV ซึ่งทำให้ยืดอายุการใช้งาน Smart TV ของเราออกไป เพราะทีวีแค่แสดงผลอย่างเดียว และ App ต่างๆที่อยู่บน Android มีมากมายหลากหลายและทำงานได้ดีกว่า App ที่ SmartTV ให้มา


3. สำหรับท่านที่มี Smart TV และเป็นระบบ Android อยู่แล้ว ก็สามารถซื้อ Android Box มาเพื่อ Upgrade ความสามารถให้เป็นรุ่นใหม่ๆที่มีลูกเล่นมากขึ้นได้

หลักการเลือกซื้อ Android Box สำหรับมือใหม่

1. งบประมาณ
ข้อแรกที่เราต้องดูก่อนเลยคือช่วงราคาที่เราตั้งไว้ว่าอยู่ในช่วงประมาณไหน โดยตัว Android Box นั้นสามารถแบ่งได้ กลุ่มเครื่องได้ 3 ระดับ คือ

ระดับต้น งบประมาณ 1,000 - 2,500 บาท

ระดับกลาง งบประมาณ 2,500 - 4,000 บาท

ระดับสูง ตั้งแต่ 4,000 บาทขึ้นไป

แต่ละกลุ่มต่างกันที่ลูกเล่นและสเปคต่างๆของเครื่องในแต่ละรุ่นรวมทั้งยี่ห้อด้วยครับ


2. การใช้งานหลักที่เราต้องการ
Android Box นั้นโดยส่วนใหญ่จุดประสงค์ใช้งานเพื่อการดู IPTV หรือ ช่องทาง Online ต่างๆผ่านทาง Internet แต่ถ้าเราเน้นการต่อดูหนังจาก Harddisk และต้องการคุณสมบัติต่างๆแบบจัดเต็มเหมือนดูกับเครื่อง HD Player หรือ Bluray Player ราคาเครื่อง Android Box นั้นจะมีราคาสูงกว่าเครื่องทั่วๆไป ดังนั้นถ้ามีงบจำกัดและต้องเลือกก็ให้ดูว่าเราใช้งานด้าน Online (ดูหนังผ่าน Internet, Youtube, IPTV) หรือ ใช้งานด้าน Offline (ดูหนังผ่าน Harddisk ที่นำมาต่อตัวเครื่อง) มากกว่ากัน


โดยทั่วไปแล้ว การดูแบบ Online จะสามารถใช้เครื่องระดับต้นถึงกลางก็ตอบโจทย์ได้ค่อนข้างดีอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องไปซื้อระดับสูงๆ ยกเว้นถ้าต้องการเน้นภาพเสียงและต่อ Harddisk ดูหนังจริงจัง ก็ต้องมองเครื่อง ระดับกลาง ถึงสูงขึ้นไปจะดีกว่า

3. สเปคเครื่อง
เครื่องไหนแรงไม่แรง ดูตรงไหนดูอย่างไร เราสามารถดูคร่าวๆได้ดังนี้

CPU ข้อแรกๆเลยที่เราต้องดู ซึ่งตัว CPU จะเป็นจุดสำคัญหลักในการประมวลผลของเครื่องดังนั้นการเลือกซื้อเครื่อง Android Box นั้นความแรงและลูกเล่นย่อมต่างกันถ้า CPU คนละชนิดกัน

GPU เป็นหน่วยประมวลผลกราฟฟิคของเครื่อง และมีผลโดยตรงด้านภาพ โดยรุ่นใหม่ๆจะมีลูกเล่นและประสิทธิภาพที่ดีกว่ารุ่นเก่า

Memory หรือ หน่วยความจำของตัวเครื่องนั้นมีความสำคัญเป็นลำดับต้นๆเช่นกัน เครื่องจะลื่นไหน เปิด App ได้รวดเร็วแค่ไหนขึ้นอยู่กับหน่วยความจำนี่แหละครับ

Srorage หรือ ความจุของตัวเครื่อง เปรียบเสมือน Harddisk ขนาดเล็กๆภายในตัวเครื่อง ซึ่งถ้าเราต้องการลง App เยอะๆ Storage ก็ต้องใช้เยอะตาม แต่อย่างไรก็ตามเราสามารถหา SD Card มาใส่เพิ่มเติมภายหลังในกรณี Srorage เราเต็มครับ

WiFi ปัจจุบันมีทั้ง มาตรฐาน 802.11n, 802.11AC รวมทั้งแบบ Single Band และ Dual Band การเลือกซื้อถ้าเน้นการต่อ WiFi เป็นหลักให้ดูที่สเปค Router ของเราด้วย การเลือก Mode WiFi แบบ Dual Band จะทำให้การรับสัญญาณทำได้ดีกว่า Single Band เพราะจะมีช่องสัญญาณให้เลือกใช้ 2 ช่องสัญญาณลดปัญหาการกวนกันของช่องสัญญาณในบริเวณบ้านใกล้ๆกัน

Lan ปกติแล้วความเร็วมาตรฐานคือ 10/100 Mbps แต่เครื่องรุ่นสูงๆจะเป็น Gigabit คือ 10/100/1000 Mbps

ลูกเล่นอื่นๆ ด้านการเชื่อมต่อ Harskdisk เพื่อดูหนังเช่น การถอดรหัสเสียง, การรองรับคุณสมบัติด้านภาพใหม่ๆรวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ ทั้งนี้เครื่องรุ่นสูงๆส่วนใหญ่จะรองรับงานด้านนี้

4. ยี่ห้อและความน่าเชื่อถือของผู้ขาย
การเลือกซื้อ Android Box นอกจากตัวเครื่องแล้ว ยี่ห้อสินค้าย่อมมีความสำคัญมากเนื่องจากคุณภาพและวัสดุในการผลิตมีผลต่อประสิทธิภาพของตัวเครื่องด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องการรับประกันหลังการขายเป็นเรื่องที่ต้องนำมาพิจารณา เนื่องจากมีเรื่องการใช้งาน App ต่างๆนั้นอาจจะมีปัญหาได้ภายหลังจากที่เราได้ซื้อเครื่องไป ดังนั้นเครื่องที่มีชื่อชั้นยี่ห้อและความน่าเชื่อถือ ย่อมจะช่วยเราแก้ปัญหาได้ดีกว่าแน่นอน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :  Android Box
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF