'เจาะใจ' บทเรียนสุดหนักอึ้ง และพลิกก้าวเดินต่อของ 'หนุ่ม KALA'
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 29 เมษายน 2024 เวลา 23:40:43 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: 1. อย่าเน้นข้อความด้วยอักษร หรือ เครื่องหมายพิเศษ เช่น +++, !!!,***, ((ขายด่วน)) ฯลฯ
2. อย่าเว้นวรรคตัวอักษรเพื่อเรียกร้องความสนใจ เช่น ข า ย สิ น ค้า ด่ ว น แ ล้ ว วั น นี้ ฯลฯ
3. อย่าโฆษณา Website หรือมี url ที่หัวข้อโฆษณา และในรายละเอียดรวมทั้งลายเซ็น
(มิเช่นนั้นประกาศของท่านจะเข้าข่ายผิดกฏ และ อาจถูกลบโดยมิได้แจ้งล่วงหน้า)
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: 'เจาะใจ' บทเรียนสุดหนักอึ้ง และพลิกก้าวเดินต่อของ 'หนุ่ม KALA'  (อ่าน 171 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Shopd2
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10785


« เมื่อ: วันที่ 26 กรกฎาคม 2021 เวลา 10:36:34 »





รายการ “เจาะใจ” ในสัปดาห์นี้พบกับการกลับมาเยือนรายการอีกครั้งในรอบ 5 ปี   ของ "หนุ่ม KALA"  หรือ “ณพสิน  แสงสุวรรณ”  กับบทเรียนชีวิตที่ยังคงเข้มข้นไปด้วยเรื่องราวแห่งความทุกข์และสุข ซึ่งเค้าคนนี้ได้ผ่านมาหมดแล้ว ทุกอุปสรรคเป็นบทเรียนแล้วพลิกเปลี่ยนมุมมองปรับมาเป็นบทเรียนบทใหม่ของการใช้ชีวิตได้อย่างน่าประทับใจ  โดย “ดู๋-สัญญา คุณากร”  พาเปิดแนวคิด ถึงบทเรียนอันมีค่า จากชีวิตในวันที่ติดลบ สู่ชีวิตบทบาทใหม่  เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ห้ามพลาดในรายการ “เจาะใจ” วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม 2564 เวลา 22.00 น. ทางช่อง9 MCOT HD (หมายเลข30) 

  โดย “หนุ่ม KALA” เล่าว่า “ชีวิตคนเราเป็นอะไรที่ไม่แน่นอน  ชีวิตผมได้เปลี่ยนไปมากในระยะเวลาอันสั้น ๆ หลังจากที่ผมได้มาเป็นศิลปินเดี่ยว แม้ว่าตอนแรกผมจะกลัวมาก ๆ ในการก้าวออกมาด้วยตัวเอง ผมก็รู้สึกว่านี้แหละคือแนวทางชีวิตที่เหมาะที่สุดสําหรับผม   อาชีพนักร้องของผมก็เหมือนกัน  บัตรคอนเสิร์ตของผม หมดตั้งแต่รอบแรก ๆ เรียกว่าพีคเลยก็ได้ แต่ในที่สุดแล้วเหมือนทุกอย่างเริ่มพังลง เมื่อผมโดนข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์  ทุกเช้าผู้จัดการจะคอยเช็คว่ามีหมายจับเราที่ไหนบ้าง เพื่อจะได้ไปรายงานตัว  ถ้าความสำเร็จมันทำให้สุขสุดๆ คดีความมันคือทุกข์สุด ๆ  ช่วงที่โดนคดี 2 ปีใช้ชีวิตอยู่ระหว่างเวทีคอนเสิร์ตกับโรงพักตลอด จนพูดกับผู้จัดการว่า กราบขอบคุณพื้นดินเลย ถ้าวันนั้นผมไม่ได้บวช วันนี้ผมบ้าแน่นอน เวลาที่มีคนปลอบใจเราว่า  “ไม่เป็นไรหนุ่ม..เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” หรือเวลาเราพูดคำนี้เฉยๆ มันจะรู้สึกแบบว่ามันไม่เห็นมีคุณค่าเลย แต่พอวันหนึ่งที่เราเจออะไรมามากๆ คำนี้มันใช้กับผมได้ทุกครั้ง อย่างบางทีวันนี้เครียดจนหัวจะแตก  เราจะบอกตัวเองว่า “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป…ใจเย็นๆ”  เป้าหมายในชีวิตตอนนี้คือ อยากแข็งแรงเพื่อครอบครัว    ตอนนี้ลูกขวบกว่าแล้ว  มันก็เลยรู้สึกว่าเราต้องแข็งแรง   นอกจากความมั่นคงทางการเงิน มันต้องมีร่างกายที่แข็งแรง ถ้าเราเป็นอะไรไป ลูกจะทำยังไง  พยายามเลี้ยงลูกให้ดีให้เขาแข็งแรงจากในบ้าน    เพราะข้างนอกโหดร้ายกว่าในบ้านเยอะ  ที่เราผ่านมาได้ ผมอยากขอบคุณตัวเองที่ยังสู้ในวันนั้น และไม่ยอมแพ้ และขอบคุณทุกคนรอบๆ ตัวที่คอยอยู่เคียงข้างและส่งกำลังใจให้ผมตลอด” 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF