BAY แนะนักลงมือใหม่ ลงทุนคริปโตเริ่มที่ 5-10% ของพอร์ต
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 20 เมษายน 2024 เวลา 11:07:55 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: หากสมาชิกท่านใดเข้ามาป่วนเว็บ หรือ ก่อกวนกระทู้บุคคลอื่น หรือ โพสข้อมูล รูปภาพ ที่ผิดต่อกฏกติกา มารยาทอันดีงามของสังคมของเรา
ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับการเมืองแบบเลือกสีเลือกฝ่าย ผู้ดูแลจะพิจารณาลบข้อมูล และลบ User ท่านออกโดยขออนุญาตไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: BAY แนะนักลงมือใหม่ ลงทุนคริปโตเริ่มที่ 5-10% ของพอร์ต  (อ่าน 139 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
luktan1479
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13076


« เมื่อ: วันที่ 19 พฤศจิกายน 2021 เวลา 14:25:36 »


BAY มั่นใจคริปโตไปต่อ หลังกองทุนเริ่มสนใจลงทุน ตั้งกองทุนลงทุนในฟิวเจอร์ เชื่อไม่นานลงทุนโดยตรง แนะนักลงทุนมือใหม่ ต้องศึกษาข้อมูลให้ดี รับความเสี่ยงแค่ไหน เหตุราคาผันผวนสูง เริ่มต้นที่ 5-10% ของพอร์ต อย่าตามกระแส ไม่งั้นติดดอยแน่

นายวิน พรหมแพทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธ ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน)กล่าวในงานสัมมนาออนไลน์  Wealth Forum: ลงทุนอย่างไรให้รวย จัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจและหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ในช่วงเสวนา" เงินดิจิทัล ไปต่อ หรือพอแค่นี้"ว่า การลงทุนในทริปโตได้รับความสนใจและยอมรับจากนักลงทุนเร็วมาก ทั้งจากนักลงทุนไทยและต่างประเทศ นักลงทุนรายย่อยและสถาบัน

BAY แนะนักลงมือใหม่ ลงทุนคริปโตเริ่มที่ 5-10% ของพอร์ต
BAY แนะนักลงมือใหม่ ลงทุนคริปโตเริ่มที่ 5-10% ของพอร์ต

 

โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันจะเห็นว่า มาแรงมาก เมื่อเร็วๆนี้มีกองทุนจากมหาลัยชื่อดัง ทั้งฮาร์เวิร์ดและเยลลงทุนในคริปโต ทั้งที่กลุ่มริเริ่มลงทุนใหม่ในอดีต มักจะเห็นอสังหาริมทรัพย์หรือกองทุนเพื่อทุนเก็งกำไร ดังน้ันเมื่อกองทุนจากมหาลัยเริ่มลงทุนในคริปโต จะทำให้กองทุนขนาดใหญ่ ตามเข้ามาลงทุนในเร็วๆนี้ 


นักลงทุนรายย่อยลงทุนในคริปโคคึกคักมาก จากตัวเลขการเปิดบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเยอะมาก รวมถึงที่เริ่มเข้ามาคือ กองทุนรวม โดยเดือนที่ผ่านมา มีกองทุนอีทีเอฟกองแรกที่เป็นการลงทุนลิงค์กับคริปโต โดยเป็นการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า(อีทีเอฟ ฟิวเจอร์) ชื่อว่า BITO แค่เพียง 2 วันมีสินทรัพย์แตะ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 30,000 ล้านบาทนับเป็นกองทุนที่โตเร็วที่สุดตั้งแต่มีอีทีเอฟมา 

 

กองทุนอีทีเอฟเป็นการลงทุนทางอ้อม เพราะอีทีเอฟมีการกำกับดูแลชั้นหนึ่ง แต่เชื่อว่า อีกไม่นาน จะมีกองทุนที่ลงทุนคริปโตโดยตรงออกมา และจะทำให้นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนในคริปโตมากกว่านี้อีก เพราะอีทีเอฟฟิวเจอร์ยังมีข้อจำกัด เช่น ราคาอาจไม่ไปด้วยกัน 100% หรือความหวือหวาอาจไม่เท่ากับคริปโตโดยตรง แต่ปัจจุบันหน่วยงานกำกับดูแลยังไม่เปิดช่องให้เราลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง แต่หากในฝั่งสหรัฐฯมีอีทีเอฟฟิวเจอร์ เชื่อว่าอีกไม่นานจะมีกองทุนลักษณะนี้ในไทยด้วยเช่นกัน


อย่างไรก็ตาม ไทยเป็นประเทศแรกๆ ที่มีกฎหมายเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีและก้าวหน้า แต่การที่มีเป็นที่แรกๆ ก็ต้องยอมรับว่า มีข้อเสีย เช่น ผู้ลงทุนยังมีข้อจำกัด ยังเป็นนักลงทุนบุคคล รายย่อยอาจไม่มากนัก  เช่นเดียวกับการลงทุนในหุ้น SET100 นักลงทุนจะมีทั้งรายย่อย สถาบัน นักลงทุนรายใหญ่และต่างชาติ

 

แต่พอลงไปในหุ้นขนาดเล็กหรือในตลาดหลักทรัพย์ mai นักลงทุนสถาบันอาจจไม่แตะ เพราะนักลงทุนสถาบันจะถูกตีกรอบด้วยขนาดของการลงทุน ขณะที่นักลงทุนต่างชาติไม่ต้องการทุ่มทรัพยากรไปวิเคราะห์หุ้นขนาดเล็ก

 

คริปโตก็เจอปัญหาในลักษณะเดียวกันในช่วงแรกๆ แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไป นักลงทุนสถาบันสนใจมากขึ้น ก็จะค่อยๆขยายวงไปสู่นักลงทุนสถาบันมากขึ้น  แต่ที่จะเตือนนักลงทุนคือ ช่วงที่มีการลงทุนน้อย เหมือนหุ้นขนาดเล็ก โบรกเกอร์ที่จะวิเคราะห์เรื่องนี้ก็จะมีน้อย ทำให้ข้อมูลที่จะใช้วิเคราะห์น้อยไปด้วย คริปโตก็เช่นกัน  ถ้าสนใจจะลงทุนต้องทำการบ้านเองเยอะหน่อย ศึกษาข้อมูลดีๆ เพราะภาพรวมการลงทุนยังผันผวนสูง และยังมีความเสี่ยงสูง เพราะมีผู้เล่นในวงจำกัด

BAY แนะนักลงมือใหม่ ลงทุนคริปโตเริ่มที่ 5-10% ของพอร์ต
BAY แนะนักลงมือใหม่ ลงทุนคริปโตเริ่มที่ 5-10% ของพอร์ต

 

นายวินกล่าวว่า ในแง่หลักการลงทุนต้องเข้าใจและรู้จักสินค้าดี ไม่ว่าจะเป็นคริปโต ICO ต้องศึกษาข้อมูลให้ดี ความเสี่ยงคืออะไร เรารับได้แค่ไหน ในแง่ผู้เล่นรายใหม่แนะนำว่า ในพอร์ต 100% นั้นควรมีสินทรัพย์ดิจิทัลไม่เกิน 5-10% แล้วจากนั้นค่อยๆขยับขึ้นไป สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ตามกระแส ตามเพื่อน แต่ถ้าศึกษาข้อมูลก็อาจจะมีจังหวะในการเข้าลงทุนได้ อย่างที่ผ่านมา ทางการจีนแบนเงินดิจิทัลมา 5-6 ครั้ง และทุกครั้งกระทบราคา 8-20%  หากหยอดทุกครั้ง ที่ทางการจีนแบน ก็มีโอกาสที่ทำกำไรมหาศาล 

 

ดังน้ัน การลงทุนเรื่องจังหวะเวลาก็สำคัญ หากเข้าใจว่า ทางการจีนมีผลต่อราคาอย่างไร  เวลาที่ราคาลดลงก็จะเป็นจังหวะซื้อก็ได้  ในทางตรงกันข้าม หากเป็นการลงทุนตามเพื่อน ตามกระแส หากราคาขึ้นไปที่ 1.8-1.9 ดอลลาร์ เราเข้าไปอาจจะติดดอยได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องอันตราย และก่อนลงทุนจะต้องศึกษาข้อมูลให้ดีว่า เป็นบริษัทที่ได้รับอนุมัติจากก.ล.ต.หรือไม่ ไม่เช่นนั้นอาจถูกหลอกให้ลงทุนได้    

 

"ที่ผ่านมามีกรณีศึกษาย้อนหลัง 7 ปี ระหว่างปี 2014-2020 พบว่า ถ้าหยอดบิตคอยน์ลงในพอร์ต 2.5% แล้วปรับน้ำหนักทุกไตรมาส  พอร์ตจะสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับที่ไม่มีบิตคอยน์ 23.9% ทั้งที่ระดับความเสี่ยงเท่ากัน ซึ่งเป็นตัวอย่างที่จะเป็นเหตุผลรองรับว่า คริปโตจะได้รับการยอมรับในพอร์ตเพิ่มขึ้น" นายวินกล่าว

 

อย่างไรก็ตาม ในแง่การใช้นั้น อาจจะยังไม่แพร่หลาย เนื่องจากคริปโตยังไม่ได้ยอมรับให้เป็นสกุลเงิน แต่ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาพบว่า มีการโอนบิตคอยน์ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 3 หมื่นล้านบาทในเวลาในการโอนเพียง 10 นาที และมีค่าบริการ  68 เซ็นต์หรือประมาณ 20 บาทเท่านั้น

 

นอกจากนั้นยังเริ่มเห็นการใช้คริปโตในการซื้อขายบ้าน รถ และล่าสุดใช้เป็นสินสอดด้วย จะทำให้ความนิยม ของคริปโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในแง่การชำระเงินเองทั้ง VISA และ Master card มีการใช้คริปโตในการชำระราคาสินค้า แต่ยังไม่ได้ใช้โดยตรง ยังเป็นการใช้ผ่านจากบิตคอยน์เป็นดอลลาร์ แล้วใช้ดอลลาร์นั้นไปชำระราคาสินค้าอีกที
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF