ดาวโจนส์ปิดลบ 117 จุด กังวลเงินเฟ้อหลังราคาพลังงานพุ่ง
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 25 เมษายน 2024 เวลา 06:55:11 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: 1. อย่าเน้นข้อความด้วยอักษร หรือ เครื่องหมายพิเศษ เช่น +++, !!!,***, ((ขายด่วน)) ฯลฯ
2. อย่าเว้นวรรคตัวอักษรเพื่อเรียกร้องความสนใจ เช่น ข า ย สิ น ค้า ด่ ว น แ ล้ ว วั น นี้ ฯลฯ
3. อย่าโฆษณา Website หรือมี url ที่หัวข้อโฆษณา และในรายละเอียดรวมทั้งลายเซ็น
(มิเช่นนั้นประกาศของท่านจะเข้าข่ายผิดกฏ และ อาจถูกลบโดยมิได้แจ้งล่วงหน้า)
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ดาวโจนส์ปิดลบ 117 จุด กังวลเงินเฟ้อหลังราคาพลังงานพุ่ง  (อ่าน 139 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Thetaiso
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9999


« เมื่อ: วันที่ 13 ตุลาคม 2021 เวลา 12:30:25 »


ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้(12 ต.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 34,378.34 จุด ลดลง 117.72 จุด จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากการพุ่งขึ้นของต้นทุนพลังงาน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ของธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,378.34 จุด ลดลง 117.72 จุด หรือ -0.34% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,350.65 จุด ลดลง 10.54 จุด หรือ -0.24% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,465.93 จุด ลดลง 20.28 จุด หรือ -0.14%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนกังวลว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันจะส่งผลให้ต้นทุนพลังงานดีดตัวและก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อตามมา นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นยังอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทเอกชนและบั่นทอนการใช้จ่ายของผู้บริโภค


หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดปรับตัวลง นำโดยหุ้นกลุ่มการสื่อสารและกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 1.05% ละ 0.51% ตามลำดับ 

ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลง 0.6% ก่อนที่ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ 

ทั้งนี้ เจพีมอร์แกนมีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3/2564 ในวันนี้ (13 ต.ค.) ส่วนโกลด์แมน แซคส์, แบงก์ ออฟ อเมริกา, มอร์แกน สแตนลีย์, เวลส์ ฟาร์โก และซิตี้ กรุ๊ป จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้
 

ไมเคิล เจมส์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Wedbush Securities กล่าวว่า แม้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มฟื้นตัวในไตรมาส 3 แต่นักลงทุนกังวลว่าบริษัทเหล่านี้อาจจะปรับลดตัวเลขคาดการณ์รายได้ตลอดปีงบการเงิน 2564 เนื่องจากผลกระทบของต้นทุนที่สูงขึ้น รวมทั้งปัญหาคอขวดที่เกิดขึ้นกับห่วงโซ่อุปทาน

หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 1.74% หลังเทสลาเปิดเผยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศจีนจำนวน 56,006 คันในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เทสลาเริ่มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในเซี่ยงไฮ้เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว

นักลงทุนจับตารายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย.ของสหรัฐ และรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยคาดว่าจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ไทม์ไลน์ที่เฟดจะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ปรับตัวลดลงแตะ 10.4 ล้านตำแหน่งในเดือนส.ค. หลังจากที่พุ่งทำสถิติเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค. และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 10.9 ล้านตำแหน่ง

ทั้งนี้ ตัวเลข JOLTS นับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF