‘ยุโรป’หวนสู่ศูนย์กลางระบาดโควิด-19 ครองสัดส่วนป่วยเกินครึ่งของโลก
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 20 เมษายน 2024 เวลา 09:29:59 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: หากสมาชิกท่านใดเข้ามาป่วนเว็บ หรือ ก่อกวนกระทู้บุคคลอื่น หรือ โพสข้อมูล รูปภาพ ที่ผิดต่อกฏกติกา มารยาทอันดีงามของสังคมของเรา
ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับการเมืองแบบเลือกสีเลือกฝ่าย ผู้ดูแลจะพิจารณาลบข้อมูล และลบ User ท่านออกโดยขออนุญาตไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ‘ยุโรป’หวนสู่ศูนย์กลางระบาดโควิด-19 ครองสัดส่วนป่วยเกินครึ่งของโลก  (อ่าน 177 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Shopd2
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10785


« เมื่อ: วันที่ 06 พฤศจิกายน 2021 เวลา 21:52:57 »


5 พฤศจิกายน 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ฮันส์ คลูเกอ ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคยุโรปขององค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้ประชาชนอย่าชะล่าใจต่อสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) หลังสถิติล่าสุดเผยว่า “ทวีปยุโรปกลับมาเป็นศูนย์กลางการระบาดใหญ่อีกครั้ง เหมือนเมื่อ 1 ปีก่อน”

“เป็นอีกครั้งที่เราอยู่ในจุดวิกฤตที่โรคโควิด-19 จะกลับมาระบาด” คลูเกอแถลงผ่านออนไลน์ พร้อมทวีตว่า “อัตราการแพร่เชื้อปัจจุบันของ 53 ประเทศในภูมิภาคยุโรปขององค์การฯ เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยกำลังทะยานใกล้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง”


 

กลุ่มประเทศในภูมิภาคยุโรปขององค์การฯ ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 55 ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา และปัจจุบันครองสัดส่วนผู้ป่วยร้อยละ 59 ของยอดผู้ป่วยทั่วโลก และร้อยละ 48 ของยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลก โดยเมื่อสัปดาห์ก่อนตรวจพบผู้ป่วยรายใหม่ 1.8 ล้านราย และผู้เสียชีวิตรายใหม่ 24,000 ราย

ADVERTISEMENT


“ตอนนี้ตัวเลขผู้ป่วยสะสมในภูมิภาคยุโรปสูงกว่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก แปซิฟิกตะวันตก และแอฟริการวมกัน” คลูเกอกล่าว พร้อมชี้ว่าจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนเป็นผลมาจากการฉีดวัคซีนที่ไม่ครอบคลุม และการผ่อนปรนมาตรการทางสังคมและสาธารณสุข

“ประชากรทั่วภูมิภาคยุโรปที่ได้รับวัคซีนครบโดสเฉลี่ยอยู่ที่เพียงร้อยละ 47 แม้ว่าจะมี 8 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้ประชากรเกินร้อยละ 70 แล้ว แต่มี 2 ประเทศที่อัตรายังคงต่ำกว่าร้อยละ 10” คลูเกอกล่าว และย้ำว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีประสิทธิภาพป้องกันอาการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิต ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเร่งกระบวนการฉีดวัคซีน

อย่างไรก็ดี เขาไม่แนะนำให้รัฐบาลในภูมิภาคกลับไปบังคับใช้ “มาตรการล็อกดาวน์” แต่เรียกร้องให้ปรับใช้ “มาตรการที่ผ่านการทดสอบและทดลองแล้วว่ามีประสิทธิภาพพอที่ประชาชนจะสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้”


 
นอกจากนี้ คลูเกอเผยว่าหากประชากรในภูมิภาคสวมหน้ากากอนามัยถึงร้อยละ 95 ก็อาจช่วยรักษาชีวิตคนได้มากถึง 188,000 คน จากจำนวนคนครึ่งล้านที่อาจเสียชีวิตก่อนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2022 พร้อมเสริมว่าการตรวจโรค การติดตามผู้ติดต่อสัมผัส การระบายอากาศในพื้นที่ในร่ม การเว้นระยะห่างทางสังคม ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการป้องกัน

สำหรับประเด็นการระบาดซ้อนของโรคโควิด-19 ร่วมกับโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลซึ่งน่ากังวลและใกล้จะมาถึงนั้น คลูเกอตอบว่าวัคซีนที่มีอยู่และมาตรการต่างๆ อาจช่วยป้องกันได้ พร้อมย้ำว่าสถานการณ์ที่น่าตกใจครั้งนี้ควรจะ “กระตุ้นเตือนพวกเราทุกคนให้ลงมือทำ”
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF