เกมเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ครั้งที่ 239 ของสโมสรแห่งเมืองลิเวอร์พูลที่สนาม กูดิสัน พาร์ค เมื่อวันพุธที่ผ่านมาลงเอยด้วยชัยชนะของ เครื่องจักรสีแดง อีกตามเคย
แม้จะเป็นทีมเยือน แต่แค่ 9 นาที
ลิเวอร์พูล ซึ่งเปิดฉากบุกตามสไตล์ตั้งแต่ต้นก็ได้ประตูนำเร็วจากฝีเท้าของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมซึ่งเป็นประตูแรกของเขาในเกม เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ จากการลงเล่นครั้งที่ 18
และจากนั้น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็ล่าตาข่ายได้ในอีกสิบนาทีต่อมาจากจังหวะโต้กลับที่ เฮนโด้ แอสซิสต์ และเป็นเกมที่ 18 ติดต่อกันในทุกรายการที่ หงส์แดง เช็คบิลคู่แข่งได้สองเม็ดขึ้นไป
แม้ เดมาราย เกรย์ จะยิงตีไข่แตกให้ เอฟเวอร์ตัน มีหวังในนาทีที่ 38 แต่ครึ่งหลังนาทีที่ 64 ซาลาห์ ก็ฉีกตาข่ายจากโอกาสโต้กลับได้อีกเม็ดหลัง เชมัส โคลแทน เล่นประมาทหวังดึง.ลงพื้นแล้วหลุดเท้า เลยถูกดาวยิงทีมชาติอียิปต์โชว์ความเป็นจรวดทางเรียบลาก.หนีจากครึ่งสนามเข้าไปเผด็จศึกประตูที่สองในเกมนี้ของตัวเอง
กระทั่งนาทีที่ 79 ดีโอโก้ โชต้า ก็โชว์เหนือซัด.มุมแคบไม่เหลือปิดเกมให้ทีมเยือนคว้าชัยไปอย่างขาดลอย 4-1 และนี่คือ 5 ประเด็นที่สมควรถูกพูดถึง
1.ราฟาเอล เบนิเตซ จ่อโดนปลด
ADVERTISEMENT
ลิเวอร์พูลหยุดไม่อยู่,เอฟเวอร์ตันบู่ไม่เลิก - 5ประเด็นเกมเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้
ก่อนเกม เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ ราฟาเอล เบนิเตซ สร้างผลงานสุดเลวร้ายคุมทีม เอฟเวอร์ตัน ชนะไม่เป็นในลีกนานถึงเจ็ดนัดติดต่อกัน
ไล่ตั้งแต่เสมอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด, แพ้คารังต่อ เวสต์แฮม 1-0, โดน วัตฟอร์ด บุกมาอัด 5-2 ,ออกไปแพ้ วูล์ฟส์ 2-1, เจ๊ากับ สเปอร์ส ในบ้าน 0-0 , โดน แมนฯ ซิตี้ ขยี้ 3-0 ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม และบุกไปแพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-0
ADVERTISEMENT
ต่อผลงานอัปยศซึ่งทำให้ทีม ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน หล่นไปอยู่ในครึ่งล่างของตาราง ผิดไปจากที่ผู้บริหารคาดการณ์กันเอาไว้ว่ายอดกุนซือสแปนิชจะยกระดับทีมได้ จึงส่งผลให้ เอลบอส ถูกบริษัทรับ.ของอังกฤษยกให้เป็น เต็งจ๋า กุนซือรายต่อไปใน พรีเมียร์ลีก ที่จะโดนไล่ออก
และแน่นอนว่า เบนิเตซ ซึ่งเปิดตัวได้สวยคุมทีม เอฟเวอร์ตัน ชนะสามจากสี่เกมแรกมีอัตราต่อรองทิ้งอันดับสองอย่าง ราล์ฟ ฮาเซนฮัทเทิ่ล กระจุย รวมถึงกุนซือรายอื่นๆที่อยู่ในอันดับรองๆลงไปทั้ง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส , เคลาดิโอ รานิเอรี่ และ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ด้วย
ลิเวอร์พูลหยุดไม่อยู่,เอฟเวอร์ตันบู่ไม่เลิก - 5ประเด็นเกมเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้
ขณะเดียวกัน ก็มีการลือกันว่า เอฟเวอร์ตัน เริ่มมองหาผู้จัดการทีมคนใหม่แล้ว และเล็งไปที่ แคสเปอร์ ฮุลด์แมนด์ กุนซือทีมชาติเดนมาร์ควัย 49 ปีที่กำลังมีผลงานดีทั้งจากศึก ยูโร 2020 ที่พาทีมหลุดไปถึงรอบตัดเชือก รวมทั้งฟุต.โลก 2022 ซึ่งเขาพาทีมเมือง โคนม ตีตั๋วไปเล่นที่กาตาร์ได้เรียบร้อยแล้ว
ถึงตอนนี้ จึงน่าจับตามองอย่างยิ่งว่า เบนิเตซ จะได้รับเวลาจากบอร์ดบริหารอีกสักกี่นัดต่อการพาทีมกำชัยให้ได้อีกครั้งหลังคุม ท๊อฟฟี่ ไร้ชัยในลีกนานถึงแปดนัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว
2.ครั้งแรกของ เอลบอส ในมุมน้ำเงิน
ลิเวอร์พูลหยุดไม่อยู่,เอฟเวอร์ตันบู่ไม่เลิก - 5ประเด็นเกมเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้
เท่าที่ผ่านมา เบนิเตซ เคยสัมผัสกับเกมเมอร์ซียไซด์ดาร์บี้ มาแล้วทั้งสิ้น 14 ครั้ง
และถ้าจะนับเฉพาะเกมที่ แอนฟิลด์ เขาไม่เคยแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียวจากผลงานชนะ 8 เสมอ 3 แพ้ 3
กระนั้นก็ดี ทั้งหมดทั้งปวงเขาอยู่มุมแดงมาโดยตลอด กระทั่งกลายมาเป็นฝั่งตรงข้ามอดีตสโมสรเป็นครั้งแรกในฐานะกุนซือ เอฟเวอร์ตัน
และมันลงเอยด้วยการปราชัยแบบขาดลอย
ลิเวอร์พูลหยุดไม่อยู่,เอฟเวอร์ตันบู่ไม่เลิก - 5ประเด็นเกมเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้
พร้อมกันนี้ กุนซือวัย 61 ยังเป็นนายใหญ่รายแรกอีกต่างหากนับตั้งแต่ปี 1894 (127ปี) ที่ได้คุมทีมของสองสโมสรร่วมเมือง
อย่างไรเสีย หลังได้รับงานกับถิ่น กูดิสัน พาร์ค เมื่อเดือนมิ.ย. เบนิเตซ ก็มีแววต้องมองหางานชิ้นใหม่ซะแล้ว
และแน่นอนว่าสาวกทีม ลูกอม ไม่คิดอาลัยอาวรณ์เขาแน่เนื่องจากเมื่อครั้งเป็นกุนซือ เร้ด แมชีน คุมทีมเจ๊ากับ ท๊อฟฟี่ 0-0 ที่ แอนฟิลด์ เมื่อเดือนก.พ.2007 เบนิเตซ เคยเอ่ยกับ บีบีซี แบบเย้ยหยันว่า เอฟเวอร์ตัน เป็นแค่ "สโมสรเล็กๆ"
3. ดาร์บี้แม็ตช์ทื่ห่างชั้นกันอย่างสุดขั้ว
ลิเวอร์พูลหยุดไม่อยู่,เอฟเวอร์ตันบู่ไม่เลิก - 5ประเด็นเกมเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้
เบนิเตซ ไม่เคยแพ้คาบ้านเลยในเกม เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ จากการคุมทีมเผชิญหน้ากับ เอฟเวอร์ตัน รวมเจ็ดครั้ง
แต่ประทานโทษที่สถิติดังกล่าวเกิดขึ้นในยุคที่เขากุมบังเ.ยน หงส์แดง
ในทางกลับกัน ผู้จัดการทีมเคราแพะก็ไม่เคยมีชัยเหนือ เร้ด แมชีน เลยจากการคุมทีมปะทะกับอดีตสโมสรทั้งในฐานะผู้จัดการทีม เชลซี และ นิวคาสเซิ่ล ตลอดทั้งหกนัดหลังอำลา แอนฟิลด์ เมื่อปี 2010
ยกเว้นหนเดียวในปี 2002 ซึ่งเขากุมบังเ.ยนทีม ตราค้างคาว ก่อนย้ายมารับตำแหน่งกับถิ่น แอนฟิลด์
ลิเวอร์พูลหยุดไม่อยู่,เอฟเวอร์ตันบู่ไม่เลิก - 5ประเด็นเกมเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้
สำหรับ ลิเวอร์พูล ต้องบอกว่าพวกเขาลูบปากรอเกมดวลกับทีมเพื่อนบ้านตลอดเวลาเนื่องจากมันแทบจะการันตีสามแต้มในกระเป๋าแบบร้อยเปอร์เซนต์
และเมื่อนับจากเกมล่าสุด ลิเวอร์พูล ก็เพิ่มสถิติใน พรีเมียร์ลีก ข่มทีมร่วมเมืองเพิ่มได้อีกเป็นการดวลกัน 59 นัดโดยชัยชนะตกอยู่กับทีมสีแดง 25 นัด และเป็นสีน้ำเงินที่ชนะแค่ 10 นัด
ยิ่งไปกว่านั้น ลิเวอร์พูล ยังขยี้ตาข่ายเพื่อนบ้านได้มากถึง 83 ประตู และเสียให้ เอฟเวอร์ตัน 53 ประตู
4.เบนิเตซ ย้ายมาคุม เอฟเวอร์ตัน ผิดเวลา
ลิเวอร์พูลหยุดไม่อยู่,เอฟเวอร์ตันบู่ไม่เลิก - 5ประเด็นเกมเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้
ที่ต้องบอกอย่างนั้นก็เพราะในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา กุนซือสแปนิชใช้เงินเสริมทัพไปอย่างจุ๋มจิ๋มแค่ 1.7 ล้านปอนด์เท่านั้น
และนักเตะหนึ่งเดียวที่เขาดึงเข้ามาร่วมค่ายแบบมีค่าตัวได้แก่ เดมาราย เกรย์ อดีตปีกทีม เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ย้ายกลับมาจาก เลเวอร์คูเซ่น สโมสรใน บุนเดสลีกา ซึ่งสตาร์ผิวสีพังประตูให้ทีมมีลุ้นเล็กๆในเกมล่าสุดซะด้วย
ลิเวอร์พูลหยุดไม่อยู่,เอฟเวอร์ตันบู่ไม่เลิก - 5ประเด็นเกมเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้
นอกนั้นอีกสี่ชีวิตล้วนเป็นการเซ็นสัญญาแบบไร้ค่าตัวทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็น แอนดรอส ทาวน์เซนด์ (พาเลซ) , อัสมีร์ เบโกวิช (บอร์นมัธ) , แอนดี้ โลเนอร์แกน (เวสต์บรอมวิช) และ ซาโลมอน รอนดอน (ต้าเหลียน โปรเฟสชั่นแนล)
แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น มันเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ประธานสโมสร ฟาฮัด โมชิรี่ เทเงินซื้อนักเตะใหม่ไปมากแล้วนั่นเองร่วมๆ 500 ล้านปอนด์นับตั้งแต่เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรในปี 2016
5.ลิเวอร์พูล ยังถล่มประตูต่ออย่างเมามัน
ลิเวอร์พูลหยุดไม่อยู่,เอฟเวอร์ตันบู่ไม่เลิก - 5ประเด็นเกมเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้
ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าระยะนี้พลพรรค เร้ด แมชีน ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กำลังเดินหน้าพังประตูคู่แข่งได้อย่างสนุกสนาน และไร้ปราณีเป็นที่สุด
ไม่เฉพาะเกมล่าสุดที่เปิดบ้านถล่ม เซาธ์แฮมป์ตัน 4-0 เท่านั้น แต่มันเริ่มต้นมาตั้งแต่เกมที่พวกเขาพลาดท่าออกไปแพ้ เวสต์แฮม 3-2 แล้ว
เพราะนับจากนั้น ลิเวอร์พูล ก็เฝ้าบ้านยำใหญ่ อาร์เซน่อล 4-0 ก่อนพิชิต ปอร์โต้ แบบเบาะๆอีก 2-0 ด้วยทีมชุดสำรองในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก
ลิเวอร์พูลหยุดไม่อยู่,เอฟเวอร์ตันบู่ไม่เลิก - 5ประเด็นเกมเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้
รวมเฉพาะเกมใน พรีเมียร์ลีก 13 นัด ลิเวอร์พูล จึงเป็นทีมสุดโหดที่สอยตาข่ายฝ่ายตรงข้ามได้มากที่สุด 39 นัด คิดค่าเฉลี่ยได้สูงถึงนัดละสามประตูเลยทีเดียว
อีกทั้งต้องไม่ลืมว่าหลังเสียท่าให้กับ ขุนค้อน หงส์แดง ลงเล่นสามนัดซัดไป 10 เม็ด แถมเป็นคลีนชีตทั้งสามเกมซะด้วย ก่อนจะมาเสียประตูให้ทีม ท๊อฟฟี่ จนได้
จะอย่างไรก็ตาม ชัยชนะที่หายห่วงในเกมที่ กูดิสัน พาร์ค ก็ทำให้ หงส์แดง ยังเป็นทีมที่น่ายำเกรงสำหรับคู่แข่งต่อไป และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสโมสรในละแวกเมอร์ซีย์ไซด์ด้วยกัน
