EA จับมือ กฟน.-JR พัฒนาสถานีชาร์จรถ EV,อัดงบ 2 พันลบ.เพิ่ม DC Ultra-Fast Charge
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 30 เมษายน 2024 เวลา 01:45:14 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: ต้องขออภัย!!! เนื่องจากตอนนี้เว็บไซต์กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา หากมีความผิดพลาดในเว็บประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ และจะเป็นการขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง หากท่านนำความผิดพลาดนั้นมาแจ้งให้กับผู้ดูแลฯ แล้วทางเราจะรีบเข้าไปแก้ไขในความผิดพลาดนั้นๆให้เร็วที่สุด
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: EA จับมือ กฟน.-JR พัฒนาสถานีชาร์จรถ EV,อัดงบ 2 พันลบ.เพิ่ม DC Ultra-Fast Charge  (อ่าน 115 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Beer625
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 15918


« เมื่อ: วันที่ 31 มีนาคม 2022 เวลา 00:51:01 »


EA จับมือ กฟน.-JR พัฒนาสถานีชาร์จรถ EV,อัดงบ 2 พันลบ.เพิ่ม DC Ultra-Fast Charge

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดเผยว่า บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด (EMN) ซึ่งบริษัทย่อยของ EA ที่ดำเนินธุรกิจให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้เครื่องหมายการค้า "EA Anywhere" ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และ บมจ.เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ (JR) ในโครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้าอัจฉริยะสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Smart Charging Station)

สำหรับวัตถุประสงค์ของความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า โดยส่งเสริมการพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้มีความคล่องตัวสูงขึ้น จึงได้ร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้าอัจฉริยะ (EV Smart Charging Station) ตลอดจนสร้างโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับยานยนต์ไฟฟ้า โดย กฟน.จะอำนวยความสะดวกในการดำเนินการขอใช้ไฟฟ้าสำหรับสถานีอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า และ JR จะเป็นผู้วางแผนและดำเนินโครงการด้านวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างสถานีอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภทร่วมกับ EMN

ปัจจุบัน EA Anywhere มีสถานีให้บริการอัดประจุไฟฟ้ากว่า 430 สถานี รวมทั้งสิ้นกว่า 1,800 หัวชาร์จ ตั้งแต่ระบบธรรมดา หรือ AC Charger ไปจนถึงระบบชาร์จเร็ว และทันสมัยที่สุด หรือ DC Ultra-Fast Charge ที่ใช้เวลาเพียง 15-20 นาที รวมทั้งยังอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการด้วย Application "EA Anywhere" ระบบออนไลน์ที่สามารถดำเนินการทั้ง จอง จ่าย และชาร์จในคราวเดียวกัน โดยัจจุบันมียอดดาวน์โหลดใช้งานแล้วกว่า 33,000 ครั้ง EA Anywhere จึงนับเป็นทั้งผู้บุกเบิก และครองความเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการอัดประจุไฟฟ้า สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ EA ที่ต้องการเป็นผู้นำยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร

"ความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รองรับนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หรืออุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ที่ตั้งเป้าผลิตยานยนต์ไร้มลพิษให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี 73 พร้อมนโยบายสนับสนุนด้านต่างๆ รวมถึงการกำหนดเป้าหมายการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) สาธารณะกระจายทั่วประเทศ" นายสมโภชน์กล่าว
ด้านนายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA กล่าวว่า บริษัทฯ วางเป้าเพิ่มหัวชาร์จ DC Ultra-Fast Charge ในปีนี้ราว 2,000 หัวชาร์จ โดยแบ่งเป็นในกรุงเทพ-ปริมณฑล 1,000 หัวชาร์จ และต่างจังหวัดอีกราว 1,000 หัวชาร์จ ซึ่งจะใช้งบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัทฯ ยังเตรียมผลิตรถโดยสารไฟฟ้า เพื่อส่งมอบให้กับบริษัท สมาร์ทบัส จำกัด (บริษัทย่อย EA) เพิ่มอีก 800 คัน เพื่อให้เป็นไปตามสัญญาที่จะต้องส่งมอบรถโดยสารไฟฟ้าในปีนี้ทั้งสิ้น 1,200 คัน จากที่ผ่านมาได้ดำเนินการส่งมอบไปแล้วกว่า 300-400 คัน

นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JR กล่าวว่าโครงการนี้ JR ทำหน้าที่เป็นผู้ออกแบบ จัดหาและติดตั้งระบบส่ง และโครงข่ายไฟฟ้า รวมถึงออกแบบพัฒนาระบบอนุรักษ์พลังงานร่วมกับ พลังงานมหานคร ในการหาสถานที่ติดตั้งสถานีอัดจุไฟฟ้ที่หมาะสม ทั้งขนาด จำนวนและสถานที่ติดตั้งสำหรับโครงการเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า ในประเทศไทย

สำหรับปีนี้บริษัทฯ คาดว่ารายได้จะเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 20% เนื่องจากได้รับงานวางระบบและติดตั้งหัวชาร์จ EV เร็ว ที่ร่วมกับ EMN ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นรวมเป็น 6,600 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ภายใน 4 ปี อีกทั้งบริษัทฯ ยังเตรียมจะเข้าประมูลงานใหม่ ได้แก่ งานวางระบบไฟฟ้า ของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู มูลค่ามากกว่า 6,000 ล้านบาท ทำให้สิ้นปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะมี Backlog เพิ่มขึ้นแตะ 10,000 ล้านบาท
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF