อาการของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 29 เมษายน 2024 เวลา 22:04:45 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: 1. อย่าเน้นข้อความด้วยอักษร หรือ เครื่องหมายพิเศษ เช่น +++, !!!,***, ((ขายด่วน)) ฯลฯ
2. อย่าเว้นวรรคตัวอักษรเพื่อเรียกร้องความสนใจ เช่น ข า ย สิ น ค้า ด่ ว น แ ล้ ว วั น นี้ ฯลฯ
3. อย่าโฆษณา Website หรือมี url ที่หัวข้อโฆษณา และในรายละเอียดรวมทั้งลายเซ็น
(มิเช่นนั้นประกาศของท่านจะเข้าข่ายผิดกฏ และ อาจถูกลบโดยมิได้แจ้งล่วงหน้า)
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อาการของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์  (อ่าน 117 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Beer625
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 15918


« เมื่อ: วันที่ 29 กรกฎาคม 2023 เวลา 13:32:47 »


โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์เป็นโรคภูมิต้านตนเองที่ทำให้เกิดอาการปวดและบวมที่ข้อต่อ ผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์มักมีอาการหลายอย่าง เช่น ปวดข้อ ข้อแข็ง อักเสบ อ่อนล้า และเคลื่อนไหวลำบาก อาการเหล่านี้อาจรบกวนกิจกรรมประจำวันและทำให้ยากต่อการทำงาน เช่น การเดินหรือใช้บันได

สาเหตุของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ยังไม่เป็นที่เข้าใจแน่ชัด แต่คาดว่าเกิดจากการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ ในคนที่มีอาการนี้ ร่างกายจะโจมตีเนื้อเยื่อของตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจ ส่งผลให้เกิดการอักเสบและทำลายเนื้อเยื่อข้อต่อที่ได้รับผลกระทบ

อาการหลักของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์คืออาการปวดข้อ ความเจ็บปวดนี้มักจะค่อยๆ พัฒนาเมื่อเวลาผ่านไป และอาจแย่ลงในบางช่วงเวลาของวันหรือหลังการออกกำลังกาย อาการปวดอาจแย่ลงเมื่อมีการขยับหรือสัมผัสข้อต่อ ข้อต่ออาจรู้สึกอ่อนและบวมเนื่องจากการสะสมของของเหลวในบริเวณที่เกิดจากการอักเสบ อาการทั่วไปอื่นๆ ได้แก่ ความแข็งในตอนเช้าเป็นเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมงและความผิดปกติของข้อต่อที่เกิดจากความเสียหายระยะยาวจากการอักเสบ

ความเมื่อยล้าเป็นอีกหนึ่งอาการที่พบบ่อยของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ผู้ที่มีอาการนี้มักรู้สึกอ่อนเพลียแม้หลังจากพักผ่อนแล้ว และไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติโดยไม่รู้สึกเหนื่อยอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น พวกเขาอาจรู้สึกหดหู่และวิตกกังวลเนื่องจากสภาพของพวกเขาส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและความสัมพันธ์

นอกจากอาการเหล่านี้แล้ว ผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์บางคนยังมีอาการไข้ ผื่น ตาแห้ง ปากแห้ง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด และอาการทางระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาการของพวกเขา ผู้ป่วยบางรายยังพัฒนาก้อนรอบข้ออักเสบที่เรียกว่า “ก้อนรูมาตอยด์” ซึ่งอาจเจ็บปวดหรือไม่สบายขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่ง

การวินิจฉัยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์เกี่ยวข้องกับการตรวจร่างกายอย่างครบถ้วนพร้อมกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจเลือดเพื่อหาแอนติบอดี anti-cyclic citrullinated peptide (anti-CCP) และอัตราการตกตะกอนของเม็ดเลือดแดง (ESR) อาจใช้รังสีเอกซ์เพื่อประเมินความเสียหายของข้อต่อจากการอักเสบหรือการสึกกร่อน หากการทดสอบใด ๆ เหล่านี้บ่งชี้ว่าเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ การทดสอบภาพเพิ่มเติม เช่น อัลตราซาวนด์หรือการถ่ายภาพด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก (MRI) อาจดำเนินการเพื่อยืนยัน การรักษาภาวะนี้มักรวมถึงการใช้ยา เช่น ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ยาต้านรูมาติกที่ปรับเปลี่ยนโรค (DMARDs) สารชีวภาพ คอร์ติโคสเตียรอยด์ และ/หรือการบำบัดทางกายภาพ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแต่ละกรณี

โดยสรุป โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์เป็นภาวะเรื้อรังที่ทำให้เกิดอาการปวดและตึงในข้อเนื่องจากการอักเสบที่เกิดจากการตอบสนองของภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ อาการต่างๆ ได้แก่ ปวดข้อ ข้อแข็ง เหนื่อยล้า มีไข้ ผื่น ตา/ปากแห้ง น้ำหนักลด/เพิ่ม ก้อนรอบๆ ข้ออักเสบ และทำกิจกรรมประจำวันลำบาก การวินิจฉัยต้องใช้การตรวจร่างกายร่วมกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการร่วมกับการสแกนภาพ เช่น เอ็กซเรย์หรือ MRI หากจำเป็น การรักษาโดยทั่วไปรวมถึงการใช้ยา เช่น NSAIDs หรือ DMARD ร่วมกับการทำกายภาพบำบัด หากแพทย์ระบุ การรักษาทางแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ บทความอาหารเสริม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF