ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท (ADVICE)
WWW.HAMSIAM.IN.TH # แฮมสยามอินไทยแลนด์ HAM COMMUNITY OF THAILAND
วันที่ 27 เมษายน 2024 เวลา 13:09:16 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: ต้องขออภัย!!! เนื่องจากตอนนี้เว็บไซต์กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา หากมีความผิดพลาดในเว็บประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ และจะเป็นการขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง หากท่านนำความผิดพลาดนั้นมาแจ้งให้กับผู้ดูแลฯ แล้วทางเราจะรีบเข้าไปแก้ไขในความผิดพลาดนั้นๆให้เร็วที่สุด
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท (ADVICE)  (อ่าน 129 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Hanako5
Super Hero Member III
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11879


« เมื่อ: วันที่ 26 สิงหาคม 2023 เวลา 18:44:51 »


ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง "แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท (ADVICE)" ยักษ์ใหญ่ไอที ขาย IPO 170 ล้านหุ้น เข้า SET ชูโอกาสเติบโตสู่นวัตกรรมยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง บมจ.แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท หรือ ADVICE หนึ่งในผู้นำอาณาจักรค้าปลีกไอทีสุดยิ่งใหญ่ กำลังเดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) เสนอขาย IPO 170 ล้านหุ้น ระดมทุนรองรับการขยายสาขา - ขยายธุรกิจ โดยมี บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ชูโอกาสการเติบโตสอดรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคและภาคธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่นวัตกรรมยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ และเป็นศูนย์รวมสินค้าและบริการด้านไอทีแบบครบวงจร ตอกย้ำ ADVICE เป็น 1 ใน 4 ผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอทีรายใหญ่ที่มียอดขายสูงสุดของประเทศนางรัชดา เกลียวปฏินนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ของบริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ ADVICE เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งไฟลิ่ง ADVICE เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่24 สิงหาคม 2566 พร้อมเดินหน้าเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 170 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 27.42% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ในหมวดธุรกิจ กลุ่มธุรกิจบริการ /พาณิชย์ ภายในปี 2566โดยจุดเด่นของ ADVICE เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดค้าปลีกสินค้าไอที พร้อมโอกาสในการเติบโตจากการเปลี่ยนผ่านสู่นวัตกรรมยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ และเป็นศูนย์รวมสินค้าและบริการด้านไอทีแบบครบวงจร เป็น 1 ใน 4 ผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอทีรายใหญ่ที่มียอดขายสูงสุดของประเทศ จึงเชื่อว่าการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมทำให้มีข้อได้เปรียบในการแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่น ในด้านความไว้วางใจ และความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายสินค้า ส่งผลให้ในปัจจุบัน ADVICE มีฐานลูกค้าปลีกและค้าส่งที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและกระจายอยู่ในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศสำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (2562 - 2565) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 11,384.7 ล้านบาท 12,541.2 ล้านบาท 14,305.8 ล้านบาท และ 14,388.2 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) เท่ากับร้อยละ 8.1 ต่อปี มีกำไรสุทธิจำนวน 134.0 ล้านบาท 233.8 ล้านบาท 430.2 ล้านบาท และ 205.7 ล้านบาทตามลำดับนายณัฎฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ ADVICE เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนและนักลงทุนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อยอดความสำเร็จของเรา ในฐานะองค์กรยุคใหม่ด้านเทคโนโลยี การระดมทุนดังกล่าวจะนำไปใช้รองรับการเติบโตของ ADVICE เพิ่มความน่าเชื่อถือรวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันโดยบริษัทฯ มีวัตถุประสงค์การระดมทุน เพื่อใช้สำหรับ 1.การลงทุนขยายธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงการขยายสาขาของบริษัทฯ และการปรับปรุงสาขาเดิมของบริษัทฯ 2.ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน 3.เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการจัดซื้อสินค้า และ 4.ลงทุนปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและบริษัทฯ กำหนดไว้ในแต่ละปีทั้งนี้ ADVICE ดำเนินธุรกิจเป็นผู้จำหน่ายสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศ ประกอบธุรกิจจำหน่ายปลีก-ส่ง สินค้าไอทีภายใต้ชื่อร้าน "Advice" ซึ่งเป็นร้านค้าในรูปแบบไอทีซุปเปอร์สโตร์ จำหน่ายสินค้าไอทีหลากหลาย เช่น คอมพิวเตอร์ประกอบ (D.I.Y) คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค (Notebook) คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป (Desktop) และอุปกรณ์เสริมต่างๆ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังจำหน่ายสินค้ากลุ่มดิจิทัลไลฟ์สไตล์ Internet of Things (IoT) ไปจนถึงสมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน นอกจากการจำหน่ายสินค้าไอที บริษัทฯ ยังให้บริการรับเคลมสินค้าที่มีปัญหาให้ผู้ผลิต รวมถึงให้บริการซ่อมบำรุงและตรวจเช็คอุปกรณ์ไอทีแบบครบวงจรบริษัทฯ แบ่งการดำเนินธุรกิจออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้ 1. ธุรกิจค้าปลีกสินค้าผ่านหน้าร้านสาขา 2. ธุรกิจค้าปลีกสินค้าผ่านออนไลน์ 3. ธุรกิจค้าส่งสินค้าให้แก่ตัวแทนจำหน่ายและสาขาแฟรนไชส์ 4. ธุรกิจลูกค้าองค์กร และ 5. ธุรกิจบริการ โดยมีสัดส่วนรายได้จากการขายของบริษัทกว่าร้อยละ 65 มาจากธุรกิจค้าปลีกให้แก่ลูกค้ารายย่อยทั่วไปรวมถึงลูกค้าองค์กรผ่านช่องทางหลัก ได้แก่ ช่องทางสาขาของบริษัทฯ และช่องทางออนไลน์ ส่วนอีกร้อยละ 35 เป็นการจำหน่ายสินค้าในลักษณะค้าส่งให้แก่ร้านค้าแฟรนไชส์และตัวแทนจำหน่ายสินค้า หรือ "ดีลเลอร์" ในจังหวัดต่างๆ บริษัทฯ มีนโยบายขยายหน้าร้านทั้งสาขาที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของและสาขาแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความสามารถในการเข้าถึงสินค้าของผู้บริโภคโดย ณ สิ้นมิถุนายน 2566 บริษัทมีสาขา "Advice" รวมทั้งสิ้น 337 สาขา ประกอบด้วยสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง 110 แห่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล และจังหวัดสำคัญต่างๆ และสาขาแฟรนไชส์ (Franchise) อีก 227 แห่ง กระจายอยู่ในแหล่งชุมชนในอำเภอและจังหวัดต่างๆ ครอบคลุม 75 จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงใน สปป.ลาว บริษัทมีนโยบายลงทุนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันบริษัทถือเป็นผู้จำหน่ายสินค้าไอทีที่มีหน้าร้านครอบคลุมพื้นที่มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศในด้านช่องทางออนไลน์ www.advice.co.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์หลัก และถือเป็นเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซสายไอทีอันดับ 1 ที่มีจำนวนผู้เข้าชมมากที่สุดของประเทศ และต่อมาบริษัทขยายสู่การวางจำหน่ายในอี-มาร์เก็ตเพลสต่างๆ ที่มีฐานผู้ใช้งานขนาดใหญ่ เช่น Shopee และ Lazada ส่งผลให้บริษัทมีฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันบริษัทถือเป็นหนึ่งในสี่ (BIG4) ของบริษัทผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย พร้อมด้วยบริการหลังการขาย ทั้งการรับเคลมสินค้าที่มีปัญหาให้ผู้ผลิต รวมถึงให้บริการซ่อมบำรุงและตรวจเช็คอุปกรณ์ไอทีแบบครบวงจรบริษัทมีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจจะเพิ่มยอดขายสินค้าควบคู่กับอัตราการทำกำไร ในช่วง 3 ปีข้างหน้าตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มยอดขายสู่ 20,000 ล้านบาท และรักษาอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี โดยคาดว่าจะมีหน้าร้าน Advice รวมทั้งสิ้น 420 แห่ง ผ่านการเปิดสาขาของบริษัทเพิ่มอีก 35-40 แห่ง ในทำเลที่มีศักยภาพ โดยเน้นพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก พร้อมขยายสาขาแฟรนไชส์อีก 30-50 แห่ง
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา 18.24.52 น. (วันและเวลาตอนเปิดเว็บ)
รวมเพ็จวิวทั้งสิ้นจนถึงวันนี้ free counter ครั้ง

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF